ศึกษาแนวทางการจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ในระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒
Main Article Content
บทคัดย่อ
๑. สภาพการจัดการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ในระดับประถมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๒ ทั้ง ๕ ด้านคือ นำเข้าสู่บทเรียน ขั้นการสำรวจและค้นหา ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป ขั้นขยายความรู้ และขั้นการประเมิน มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก
๒. วิเคราะห์การจัดการเรียนรู้ที่ดีตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ในระดับประถมศึกษา โดยมี ครูควรจัดกิจกรรมหรือสร้างสถานการณ์กระตุ้น ยั่วยุ หรือท้าทาย ทำให้นักเรียนสนใจ สงสัย ใคร่รู้ อยากรู้อยากเห็น เป็นขั้นการนำเข้าสู่บทเรียน ครูควรจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ให้นักเรียนสำรวจตรวจสอบปัญหา หรือประเด็นที่นักเรียนสนใจ ใคร่รู้ ช่วยพัฒนาผู้เรียน ในด้านการคิดแก้ปัญหาจากสถานการณ์ต่างๆ ครูจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่เน้นทักษะ กระตุ้นให้นักเรียนตรวจสอบปัญหาดำเนินการสำรวจและรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง เป็นขั้นสำรวจและค้นหาอธิบายและลงข้อสรุป ครูควรจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ให้นักเรียนวิเคราะห์อธิบายความรู้ หรืออภิปรายซักถามแลกเปลี่ยนความคิดเห็น ซึ่งกันและกันเกี่ยวกับสิ่งที่ได้เรียนรู้หรือสิ่งที่ได้ค้นพบ เพื่อให้นักเรียนได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจในองค์ความรู้ที่ได้อย่างชัดเจน เป็นขั้นอธิบายและลงข้อสรุป ครูควรจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่ให้นักเรียนได้ขยายเพิ่มเติมองค์ความรู้ใหม่ให้กว้างขวางสมบูรณ์ กระจ่างและลึก ซึ้งยิ่งขึ้น เป็นขั้นที่นักเรียนได้ทบทวนหรือขยายความรู้ที่เกิดขึ้นในสถานการณ์ใหม่จึงทำให้เกิดความใหม่ๆ หรือขยายความเข้าใจมากขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์ในการนำมาประยุกต์ใช้ชีวิตประจำวัน เป็นขั้นขยายความรู้ ครูควรจัดกิจกรรมช่วยพัฒนาผู้เรียนในด้านกระบวนการคิดหาเหตุผล การแสดงความคิดเห็นการวิเคราะห์ข้อมูล การลงข้อสรุป มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนภายในชั้นเรียน ครูจัดกิจกรรมหรือสถานการณ์ที่เปิดโอกาสให้นักเรียนวิเคราะห์ วิจารณ์ หรือ อภิปรายซักถามแลก เปลี่ยนองค์ความรู้ซึ่งกันและกันในเชิงเปรียบ เทียบ ประเมิน ปรับปรุง เพิ่มเติม หรือทบทวนใหม่ ทั้งกระบวนการและองค์ความรู้เป็นครั้งการประเมิน
๓.แนวทางการจัดการเรียนรู้ของครูตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ขั้นนำเข้าสู่บทเรียน โดยครูจะต้องในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อสร้างความสนใจให้กับนักเรียนมากขึ้น สร้างความแปลกใหม่ให้นักเรียน ครูควรเป็นกระตุ้นเด็กนักเรียนให้เกิดแรงจูงใจ ความสนใจ ให้เด็กนักเรียนได้เกิดการเรียนรู้ ครูควรเป็นตัวเร้าสร้างความอยากรู้อยากเห็น ตั้งคำถามกระตุ้นให้นักเรียนคิด ขั้นการสำรวจและค้นหา ครูควรเปิดโอกาสให้มีแนวทางการตรวจสอบอย่างหลากหลายเทคนิค ครูควรส่งเสริมให้นักเรียนได้ทำงานร่วมกัน ระดมความคิดเห็นในการแก้ปัญหา ครูควรจัดกิจกรรมที่นักเรียนได้เรียนรู้วิธีแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ครูทำหน้าที่ในการให้คำปรึกษา สังเกตการทำงานของนักเรียนอย่างใกล้ชิด ขั้นอธิบายและลงข้อสรุป ครูควรส่งเสริมให้นักเรียนได้อธิบายผลการสำรวจตรวจสอบด้วยคำพูดของนักเรียนเอง ส่งเสริมให้นักเรียนสรุปองค์ความรู้ที่ได้อย่างถูกต้อง สมเหตุสมผล มีเทคนิคนำเสนอผลในรูปแบบที่หลากหลายขั้นขยายความรู้ ครูควรให้นักเรียนนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในเรื่องอื่นได้หรือในชีวิตประจำวันได้ ครูควรส่งเสริมให้นักเรียนเชื่อมโยงความรู้จากการสำรวจตรวจสอบกับความรู้อื่น ๆด้านขั้นการประเมิน ครูควรส่งเสริมให้นักเรียนประเมินกระบวนการและผลงานด้วยตนเอง ครูควรมีวิธีการประเมินที่หลากหลายรูปแบบ
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
References
กันยา เทพกัน. (๒๕๕๓). ความสัมพันธ์ระหว่าง ภาวะผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูสังกัด สำนักงานเขตบางนา กรุงเทพมหานคร. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต,สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
จอมพงศ์ มงคลวนิช. (๒๕๕๕). การบริหารองค์การและบุคลากรทางการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ ๑). กรุงเทพฯ:สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จิรังรัก สมรรคจันทร์. (๒๕๕๐). ปัจจัยที่ส่งผลต่อ ความผูกพันต่อองค์กรของครูในโรงเรียนอนุบาลเอกชนสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษานนทบุรี เขต ๑. ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาบริหารการศึกษา, คณะครุศาสตร์, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา.
ชันญานุช ปิ่นทองคำ. (๒๕๕๕). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู กับประสิทธิผลของโรงเรียนประถมศึกษาในสังกัดเทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต,สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
ดรุณี ปูเต๊ะ. (๒๕๕๔). ความสัมพันธ์ระหว่างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานกับความผูกพัน ต่อองค์การของครูในสถานศึกษาสังกัด เทศบาลตำบลตะลุบัน จังหวัดปัตตานี. การศึกษาค้นคว้าอิสระปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, แขนงวิชาบริหารการศึกษา, สาขาวิชาศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
ดวงนภา ศรีนันทวงศ์. (๒๕๔๘). โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยศิลปากร ในทศวรรษหน้า. วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ดวงพร กาบขุนทด. (๒๕๕๑). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารความขัดแย้งของผู้บริหารกับความผูกพันต่อองค์การของครูในโรงเรียนเอกชน เขตพัฒนาพื้นที่ชายฝั่งทะเลตะวันออก. วิทยานิพนธ์การศึกษมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
นรารัตน์ นิยมไทย. (๒๕๕๖). ปัจจัยที่มีผลต่อความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครูที่ปฏิบัติงานในโรงเรียน ในอำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต ๒. สารนิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ.
ณรงค์ศักดิ์ สาลี. (๒๕๕๔). แรงจูงใจและแนวทางเสริมสร้างแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของข้าราชการครูในอำเภอโป่งน้ำร้อน สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต ๒. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
ภารดี อนันต์นาวี. (๒๕๕๗). หลักการ แนวคิด ทฤษฎีทางการบริหารการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ ๕). ชลบุรี: สำนักพิมพ์มนตรี.
ยุพดี มนตรีดิลก. (๒๕๕๗). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษามหาสารคาม เขต ๓. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
เย็นตะวัน แสงวิเศษ. (๒๕๕๔). แรงจูงใจในการ ปฏิบัติงานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาอาชีวศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี. งานนิพนธ์การศึกษา มหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
รัฐธิการ ซุยซวง. (๒๕๕๖). ความผูกพันของข้าราชการครูต่อโรงเรียนในอำเภอวังสมบูรณ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต ๑. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
รสสุคนธ์ เหล็กเพชร. (๒๕๕๕). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูผู้ช่วยในโรงเรียนสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๘ จังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
รำพึง ศุภราศี. (๒๕๕๔). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเมืองพัทยา ๑๑ (มัธยมสาธิตพัทยา) จังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์ การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
แววรีย์ พุทธประเสริฐ. (๒๕๕๙). ปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเทศบาลแหลมฉบัง ๒ (มูลนิธิไต้ล้ง-เซ็ง พระประภา) สังกัดเทศบาลนครแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สัญญา ปัจสุริยะ. (๒๕๕๔). ปัจจัยจูงใจในการปฏิบัติงานของครูในสถาบันอาชีวศึกษา จังหวัดหนองคาย. การศึกษาค้นคว้าอิสระ ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยนครพนม.
สนธยา บุตรวาระ. (๒๕๕๖). การศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษาจังหวัดชลบุรี สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๘. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุดารัตน์ วสุพลวิรุฬห์. (๒๕๕๕). ความสัมพันธ์ระหว่างแบบภาวะผู้นำของผู้บริหารกับแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูและพนักงานราชการในศูนย์การศึกษานอกระบบการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอในเขตภาคกลาง.วิทยานิพนธ์ ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย,มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านจอมบึง.
สุนันท์ ฝอยหิรัญ. (๒๕๕๘). การศึกษาปัจจัยการ บริหารที่ส่งผลต่อความผูกพันของครู โรงเรียนประถมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต ๒. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุธภา กมลนุกูล. (๒๕๕๓). ความสัมพันธ์ระหว่างการบริหารงานวิชาการของผู้บริหารโรงเรียนกับความผูกพันต่อองค์การของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฉะเชิงเทรา เขต ๒. งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
สุวนีย์ ฤทธิ์ถาพรม. (๒๕๕๖). การศึกษาแรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนสังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดมหาสารคาม. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะครุศาสตร์, มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม.
อานะ อยู่ทรัพย์. (๒๕๕๔). การศึกษาระดับความผูกพันต่อองค์การของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชัยภูมิ เขต ๑. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, สถาน บัณฑิตศึกษา,มหาวิทยาลัยราชภัฏชัยภูมิ.
อเนก บุญสัมพันธ์กิจ. (๒๕๕๑). แรงจูงใจในการ ปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเทศบาลสังกัดเทศบาลนครศรีธรรมราช. การศึกษาอิสระบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, สาขาวิชาบริหารธุรกิจ, มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์.
อิสริยา รัฐกิจวิจารณ์ ณ นคร. (๒๕๕๗). แรงจูงใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนมัธยมศึกษา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑๗ (จันทบุรี-ตราด). งานนิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการบริหารการศึกษา, คณะศึกษาศาสตร์, มหาวิทยาลัยบูรพา.
Buchanan II. B. (1974). Building organizational commitment: The socialization of managers in work organizations. Administrative Science Quarterly, 19(1) 533-546.
Herzberg, F. F. (1968). Work and the nature of man. New York: John Wiley & Son.
Krejcie, R. V., & Morgan, D.W. (1990). Determining size for research activities. Journal of Education and Psychological Measurement, 30(3), 608-611.
Robbins, S. P. (1994). Organizational Behavior : Concepts, Controversies, and Applications. (6th ed). Englewood Cliffs: Prentice-Hall.