การพัฒนากลยุทธ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศของการจัดการศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา เพื่อการพัฒนาและนำเสนอกลยุทธ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศของการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ โดยผู้วิจัยได้ศึกษาบริบทเพื่อจัดทำร่างกลยุทธ์ ประกอบด้วยการศึกษาเอกสาร การสนทนากลุ่มและการศึกษาเชิงสำรวจ และการพัฒนาและการตรวจสอบกลยุทธ์ โดยพิจารณาจากเกณฑ์ความเป็นไปได้และได้รับการยอมรับโดยการสัมภาษณ์เชิงลึก (In-Depth Interview) และการประชาพิจารณ์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ผลการวิจัยสรุปได้ ดังนี้
สภาพปัจจุบันและสภาพที่พึงประสงค์ของการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ด้านการบริหาร บัณฑิตวิทยาลัยควรทำหน้าที่ในการดูแลมาตรฐานคุณภาพการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาทั้งหมดเพื่อควบคุมคุณภาพมาตรฐานและความเป็นเอกภาพในการบริหารจัดการ ด้านบัณฑิต/นิสิต จำนวนรับเข้าของนิสิตระดับบัณฑิตศึกษามีจำนวนมาก หากเทียบสัดส่วนระหว่างนิสิตและอาจารย์ ด้านอาจารย์ อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ ตามที่เกณฑ์ระบุว่า ต้องมีประสบการณ์ในการทำวิจัยที่มิใช่ส่วนหนึ่งของการศึกษาเพื่อรับปริญญานั้น ยังมีบางส่วนที่ไม่เป็นไปตามเกณฑ์นี้ ด้านหลักสูตร การประเมินหลักสูตรตามเกณฑ์ สกอ. ซึ่งกำหนดให้มีการประเมินหลักสูตรภายในระยะเวลา ๕ ปี ยังมิได้มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมในบางส่วนที่มีการดำเนินการยังขาดความเป็นมาตรฐานเดียวกัน ด้านการเรียนการสอน มีการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Block Course ในหลายหลักสูตรจัดการเรียนการสอนทำโดยอาจารย์ประจำและอาจารย์พิเศษ ซึ่งในกรณีรายวิชาที่เป็นอาจารย์พิเศษมักพบปัญหาเรื่องการจัดทำ มคอ. ๓ รายละเอียดประจำรายวิชา และ มคอ. ๕ รายงานผลการดำเนินการของรายวิชา ด้านวิทยานิพนธ์ รูปแบบการทำวิทยานิพนธ์ขาดความเป็นมาตรฐานเดียวกัน เนื่องจากแต่ละหลักสูตรจัดทำคู่มือการจัดวิทยานิพนธ์ขึ้นมาเอง แม้ว่าจะอิงแบบของบัณฑิตวิทยาลัยก็ตาม ด้านสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยจัดบริการด้านกายภาพที่เหมาะสมต่อการจัดการเรียนการสอนและการพัฒนานิสิต ห้องเรียน มีอุปกรณ์สนับสนุนการเรียนรู้ครบถ้วนและเพียงพอ
การพัฒนาและนำเสนอกลยุทธ์การบริหารสู่ความเป็นเลิศของการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย จำแนกเป็น ๗ ด้าน คือ ๑) ด้านการบริหาร โดยมุ่งเป้าประสงค์ (๑) บริหารจัดการแบบครบวงจรในจุดเดียว (one stop service) ตามเกณฑ์มาตรฐานสากล ประกอบด้วย ๒ กลยุทธ์ ๓ ตัวชี้วัด (๒) พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการบัณฑิตศึกษาระดับชาติและนานาชาติ และมีกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ๒ กลยุทธ์ ๓ ตัวชี้วัด และ (๓) การบริหารจัดการเป็นไปตามหลักธรรมาภิบาล ได้รับการยอมรับ ในระดับชาติและนานาชาติ ประกอบด้วย ๗ กลยุทธ์ ๖ ตัวชี้วัด ๒) ด้านบัณฑิต/นิสิต โดยมุ่งเป้าประสงค์ (๑) บัณฑิตมีความเป็นเลิศทางวิชาการ ประกอบด้วย ๕ กลยุทธ์ ๔ ตัวชี้วัด (๒) บัณฑิตเป็นผู้นำด้านการพัฒนาจิตใจ ประกอบด้วย ๒ กลยุทธ์ ๒ ตัวชี้วัด และ ๓) บัณฑิตเป็นคนดีมีความรู้ ความสามารถและมีจิตอาสาเพื่อสังคม ประกอบด้วย ๓ กลยุทธ์ ๓ ตัวชี้วัด ๓) ด้านคณาจารย์ โดยมุ่งเป้าประสงค์ (๑) บุคลากรสายวิชาการมีความเป็นเลิศในศาสตร์ที่รับผิดชอบในระดับชาติและนานาชาติ ประกอบด้วย ๕ กลยุทธ์ ๔ ตัวชี้วัด และ (๒) บุคลากรสายปฏิบัติการมีความเชี่ยวชาญตาม และมีจิตอาสา ประกอบด้วย ๓ กลยุทธ์ ๔ ตัวชี้วัด ๔) ด้านหลักสูตร โดยมุ่งเป้าประสงค์ (๑) พัฒนาหลักสูตรให้มีลักษณะสากลเพื่อนําไปใช้ในการจัดการศึกษาทั้งระดับชาติและนานาชาติ “เพื่อจัดการศึกษาพระพุทธศาสนา บูรณาการกับศาสตร์สมัยใหม่ พัฒนาจิตใจและสังคม” ๕) ด้านการเรียนการสอน โดยมุ่งเป้าประสงค์ (๑) การจัดระบบการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อคุณภาพการศึกษา พัฒนาระบบการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาให้ประสบความสำเร็จตามวัตถุประสงค์ ๖) ด้านวิทยานิพนธ์ โดยมีเป้าประสงค์ (๑) งานวิจัยและนวัตกรรมแก้ปัญหาและพัฒนาสังคมได้ ประกอบด้วย ๒ กลยุทธ์ ๒ ตัวชี้วัด (๒) งานวิจัยได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ ประกอบด้วย ๔ กลยุทธ์ ๕ ตัวชี้วัด และ (๓) เครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการระดับชาติและนานาชาติจัดกิจกรรมร่วมกันอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย ๓ กลยุทธ์ ๒ ตัวชี้วัด และ ๗) ด้านแหล่งการเรียนรู้ โดยมีเป้าประสงค์ (๑) งานบริการวิชาการตอบสนองความต้องการของคณะสงฆ์ ชุมชนและสังคมตามมาตรฐานสากล ประกอบด้วย ๔ กลยุทธ์ ๓ ตัวชี้วัด และ (๒) นวัตกรรมในการบริการวิชาการได้รับการบูรณาการเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย ๒ กลยุทธ์ ๓ ตัวชี้วัด
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา คุณารักษ์. พื้นฐานการพัฒนาหลักสูตร. นครปฐม: มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร, ๒๕๔๓.
ไพฑูรย์ สินลารัตน์. “กรอบมาตรฐานคุณวุฒิระดับอุดมศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๕๒ (Thai QualificationsFramework for Higher Education: TQF)” การประชุมวิชาการกองบริการการศึกษาวันที่ ๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๒. ณ หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช. ๒๕๕๒.
ประโยชน์ คุปต์กาญจนากุล. “การวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสาเหตุของประสิทธิ์ภาพการสอนอาจารย์ในวิทยาลัยครู”. วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฎีบัณฑิต (สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน). บัณฑิตวิทยาลัย : จุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย, ๒๕๓๒.
อดุลย์ วิริยเวชกุล. ดัชนีบ่งชี้คุณภาพบัณฑิตศึกษาของสถาบันอุดมศึกษา. กรุงเทพมหานคร: บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยมหิดล, ๒๕๔๑.
รายงานการประเมินตนเอง (Self Assessment Report). บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัย
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๕๖.
สำนักนโยบายและแผนการอุดมศึกษา. ปรัชญาการอุดมศึกษาไทย. กรุงเทพมหานคร : สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา.