รูปแบบการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดสมุทรปราการ
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดสมุทรปราการ โดยดำเนินการวิจัย ๔ ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ ๑ การศึกษาสภาพการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จากกลุ่มตัวอย่างผู้บริหาร และครูในสถานศึกษาที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน ๗ โรงเรียน โรงเรียนละ ๑๐ คน โดยใช้แบบสอบถาม และศึกษาองค์ประกอบและแนวทางการบริหารงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษาโดยการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ด้านการบริหารการศึกษา และการบริหารจัดการศูนย์วัฒนธรรม จำนวน ๙ คนขั้นตอนที่ ๒ เป็นการสร้างรูปแบบการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา และตรวจสอบคุณภาพเบื้องต้นโดยผู้เชี่ยวชาญ 5 คน และขั้นตอนที่ 3 การประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของการนำรูปแบบไปใช้ในการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษาจังหวัดสมุทรปราการ โดยผู้บริหาร และครูในสถานศึกษาที่ตั้งของศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดสมุทรปราการ จำนวน 7 โรงเรียน โรงเรียนละ 10 คน
ผลการวิจัยพบว่า
๑. สภาพการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดสมุทรปราการโดยรวมมีการปฏิบัติตามหลักการบริหารอยู่ในระดับมาก
๒. รูปแบบการบริหารจัดการงานศูนย์วัฒนธรรมในสถานศึกษา จังหวัดสมุทรปราการประกอบด้วย องค์ประกอบหลัก ๒ องค์ประกอบ ได้แก่การศึกษาและวิจัยองค์ความรู้ด้านวัฒนธรรมท้องถิ่นและการส่งเสริมพัฒนาและเผยแพร่วัฒนธรรมท้องถิ่น ซึ่งในแต่ละองค์ประกอบ มีสารสนเทศในการบริหารจัดการ ๔ ด้าน คือ ๑) การวางแผน ได้แก่ การกำหนดยุทธศาสตร์และแผนกลยุทธ์ และการจัดทำแผนกลยุทธ์ แผนงานและแผนปฏิบัติการ ๒) การดำเนินงาน ได้แก่การสร้างพลังในการขับเคลื่อนโดยใช้หลักการมีส่วนร่วมและการสร้างศักยภาพของบุคลากรโดยใช้หลักคุณธรรม ๓) การตรวจสอบประเมินผล ได้แก่ การกำหนดเกณฑ์ตัวชี้วัดและการสร้างเครื่องมือ และ ๔) การพัฒนาและปรับปรุง ได้แก่ การวิเคราะห์ผลการดำเนินงาน และการจัดทำระบบฐานข้อมูล
๓. ผลการประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการนำรูปแบบไปใช้ พบว่าผู้บริหารและครู มีความเห็นว่า รูปแบบมีความเหมาะสมและเป็นไปได้ในการนำไปใช้อยู่ในระดับมาก
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร