กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี เพื่อพัฒนากลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี และเพื่อตรวจสอบกลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษา พระปริยัติธรรมแผนกบาลี ของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสมผสานวิธี คือ การวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วย ๑) การศึกษาเอกสาร ๒) การสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๑๐ รูป/คน และ ๓) การสนทนากลุ่ม จากผู้ให้ข้อมูลสำคัญจำนวน ๙ รูป/คน และการวิจัยเชิงปริมาณ จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน ๑๔๔ รูป/คน โดยการแจกแบบสอบถามผู้บริหาร เจ้าสำนักเรียน ครูผู้สอน เจ้าหน้าที่ และนักเรียน เพื่อตรวจสอบกลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของสำนักเรียน พระปริยัติธรรมแผนกบาลี
ผลการวิจัย พบว่า
๑. สภาพการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ขาดการเอาใจใส่อย่างจริงจังจากภาครัฐและเอกชน ขาดการวางแผนและการวิเคราะห์การใช้หลักสูตรร่วมกัน ไม่สามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดผลที่เป็นประโยชน์แก่นักเรียนเท่าที่ควร กิจกรรมการเรียนการสอนขาดความชัดเจน ไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ นักเรียนจำนวนมากไม่สนใจเรียนบาลีเท่าที่ควร
๒. กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ประกอบด้วย
๑) วิสัยทัศน์ การบริหารจัดการทั้งระบบมีคุณภาพและได้มาตรฐานเพื่อตอบสนองความต้องการของคณะสงฆ์และสังคมอย่างมืออาชีพ ๒) พันธกิจ (๑) จัดกระบวนการเรียนรู้ให้มีความพร้อมในทุกด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย (๒) ปลูกจิตสำนึกความพึงพอใจในการทำงานของผู้สอนที่มีต่อผู้เรียนอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และ (๓) ร่วมกันปลูกฝังทัศนคติที่ดี เพื่อสร้างแรงจูงในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีให้มีประสิทธิภาพ ๓) เป้าประสงค์ (๑) จัดสำนักเรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลีให้มีความพร้อมภายใต้สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้เรียน เอื้อต่อการเรียนรู้และสร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน (๒) สร้างศาสนทายาทที่ใฝ่เรียนรู้พระปริยัติธรรมแผนกบาลี และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ และ(๓) ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีความรู้ความเข้าใจและทักษะความชำนาญในการบริหารร่วมกันพัฒนาปรับปรุง การเรียนการสอน เพื่อให้เกิดแรงจูงใจในการเรียนบาลีอย่างยั่งยืน และ ๔) กลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ของสำนัก
เรียนพระปริยัติธรรมแผนกบาลี มี ๔ กลยุทธ์ย่อย ๑๖ ยุทธวิธี ดังนี้ (๑) กลยุทธ์การพัฒนาหลักสูตรให้ง่ายและมีคุณค่า มี ๔ ยุทธวิธี (๒) กลยุทธ์การพัฒนาสื่อการเรียน ให้ทันสมัยเหมาะกับนักเรียน มี ๔ ยุทธวิธี (๓) กลยุทธ์การพัฒนาผู้เรียนให้เป็นศาสนทายาทที่มีคุณภาพ มี ๔ ยุทธวิธี และ (๔) กลยุทธ์การพัฒนาระบบการบริหารสำนักเรียนให้มีคุณภาพ มี ๔ ยุทธวิธี
๓. การตรวจสอบกลยุทธ์การสร้างแรงจูงใจในการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีของสำนักเรียนพระปริยัติธรรมพบว่า ด้านความเป็นประโยชน์มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านความเหมาะสม ความถูกต้อง และความเป็นไปได้ ตามลำดับ
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร