วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการสร้างความรู้ การแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้ จากการปฏิบัติจริง : ผ่ำนกระบวนการศึกษำเพื่อท้องถิ่น

Main Article Content

พัชริน ดารงกิตติกุล

บทคัดย่อ

การศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) รวบรวมหลักการทฤษฎีที่สนับสนุนการสร้างความรู้
การแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้ จากการปฏิบัติ ๒) วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของกระบวนการสร้าง
ความรู้ การแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้ จากการปฏิบัติที่ อิงกับหลักพุทธธรรม โดยการศึกษา
เอกสาร บทความ สื่ อออนไลน์ และงา นวิจัยที่ เกี่ ยวข้องและน ามาวิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ
กระบวนการสร้างความรู้ การแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้ จากการปฏิบัติ โดยการแลกเปลี่ ยน
ความเห็นกับผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการสร้างความรู้ การแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้
จากการปฏิบัติ และผู้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านหลักพุทธธรรม จ านวน ๕ คน ผลวิจัยพบว่าการจัด
การศึกษาเพื่อท้องถิ่ น (Community Based Education) เป็นการศึกษาไม่ ลอยตัวอยู่ กับการ
ถ่ายทอดความรู้เท่านั้น แต่สามารถจัดการศึกษาให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ พร้อมกับการสร้างความรู้
จากการปฏิบัติในสภาพที่เป็นจริง ท าให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง (Experiential
Learning) และสร้างความรู้ที่มีประโยชน์ต้อการด ารงชีวิต (Living Knowledge) กว่า ๑๐๐ ปี หลัก
พุทธธรรมเป็นหลักการธรรมชาติที่สนับสนุนการเรียนรู้จากการปฏิบัติ สามารถอธิบายกระบวนการ
สร้างความรู้และ การแสวงหาความรู้ผ่ านกระบวนการท างานของจิตผู้รู้ที่ มีสติ เป็นการเรียนรู้ด้วย
กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ซึ่งสอดคล้องกับหลักอริยสัจสี่ คือมีสัมมาทิฎฐิ ในขณะที่การเรียนรู้ของ
มนุษย์ผ่านโครงสร้างหน้าที่การท างานสมอง (Brain Based Learning) มีความชัดเจน แต่ควรเสริม
ด้วยมิ ติการเรียนรู้ด้วยการเจริญสติ ซึ่ งหลักพุทธธรรม สามารถอธิบายการท างานของจิตได้อย่ าง
ละเอียดลึกซึ้ง ดังนั้นการใช้ทฤษฎีการเรียนรู้ในประเทศไทยจึงควรศึกษาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ของ
สมองควบคู่กับศาสตร์แห่งการเรียนรู้ตามหลักพุทธธรรม เพื่อให้การพัฒนาการเรียนรู้มีความส มบูรณ์
ยิ่งขึ้น

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ดารงกิตติกุล พ. (2018). วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการสร้างความรู้ การแสวงหาความรู้ และการเรียนรู้ จากการปฏิบัติจริง : ผ่ำนกระบวนการศึกษำเพื่อท้องถิ่น. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 3(2), 29–44. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/143931
ประเภทบทความ
บทความวิจัย