การพิจารณาจีวรในพระพุทธศาสนาเถรวาท
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์เรื่องการพิจารณาจีวรในพระพุทธศาสนาเถรวาท โดยศึกษาจากพระไตรปิฎก อรรถกถา ฎีกา ปกรณวิเสส ฎีกาปกรณวิเสส และเอกสารงานวิจัยที่เกี่ยวข้องแล้วนาข้อมูลมาวิเคราะห์จัดระบบเป็นหมวดหมู่ และสรุปผลการศึกษาพร้อมกับนาเสนอเชิงพรรณนาผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยที่สาหรับใช้ในการนุ่งห่มของพระภิกษุ ได้แก่ จีวร มี ๓ ผืน คือ สังฆาฏิ ผ้าซ้อนหรือผ้าทาบอุตราสงค์ ผ้าห่ม และอันตรวาสก ผ้านุ่ง จีวรทั้งไตรนี้ในชั้นเดิม หมายถึง บังสุกุลจีวร ที่พระต้องไปเก็บผ้าที่เขาทิ้งมาต้มตัดเย็บย้อมเองตามวิธี ได้สีและขนาดที่ทรงอนุญาต ต่อมามีพุทธานุญาตให้พระภิกษุใช้ผ้าที่ผู้ศรัทธาถวาย เรียกว่า คหบดีจีวร เพราะเป็นส่วนเพิ่มจากบังสุกุลจีวรนั้นจึงเรียกว่าจีวรที่เป็นอดิเรกลาภ ได้แก่ ผ้าเปลือกไม้ ผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าขนสัตว์ ผ้าป่าน และผ้าที่ทอจากของ ๕ ชนิดดังกล่าวปนกัน การพิจารณาจีวรในพระพุทธศาสนาเถรวาท คือ การพิจารณาถึงจุดมุ่งหมายของการบริโภคใช้สอยจีวร ว่าที่บริโภคใช้สอยนั้นเพื่อสนองความต้องการของชีวิต มิใช่เพื่อสนุกสนาน ประดับตกแต่ง หรือแสดงฐานะทางสังคม และพระภิกษุควรพิจารณาในการใช้สอยจีวรทุกครั้งที่บริโภคใช้สอย ได้แก่ พิจารณาจีวรทุกครั้งที่ห่มหรือเปลื้องจากกาย แต่ถ้าไม่สามารถพิจารณาดังกล่าวได้ ก็ให้พิจารณาย้อนหลัง ฉะนั้น จึงมีการพิจารณาจีวรใน ๓ กาลได้แก่ ปฏิลาภกาล ในเวลารับประเคนจีวรพระภิกษุควรพิจารณาธาตุปฏิกูลปัจจเวกขณ์ ปริโภคกาล ในเวลาจะใช้จีวรก็ให้พิจารณาตังขณิกปัจจเวกขณ์ และ อตีตกาล ในหลังจากใช้สอยจีวรนั้นก็ให้พิจารณา อตีตปัจจเวกขณ์ ถ้าไม่พิจารณาปล่อยเวลาล่วงเลยไปจนถึงอรุณวันใหม่ก็ตกอยู่ในฐานะ อิณบริโภค คือบริโภคอย่างเป็นหนี้
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร