ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการกำกับตนเองของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต

Main Article Content

สมาพร มณีอ่อน

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิตให้เป็นไปตามเกณฑ์ ร้อยละ 80 2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการกำกับตนเองของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิตระหว่างเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านกับการเรียนรู้แบบปกติ และ 3) เพื่อเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิตระหว่างเรียนด้วยการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านกับการเรียนรู้แบบปกติ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาหลักสูตรและการสอน ชั้นปีที่ 1 ที่กำลังศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2567 จำนวน 2 ห้องเรียน รวมนักศึกษาจำนวน 44 คน โดยวิธีการสุ่มแบบคลัสเตอร์เครื่องมือประกอบด้วย 1) เอกสารการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน 2) แบบประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต 3) แบบประเมินความสามารถในการกำกับตนเองของนักศึกษา และ4) แบบประเมินความพึงพอใจทางการเรียนของนักศึกษาที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านกับการจัดการเรียนรู้แบบปกติ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้สถิติ t-test แบบ Independent


ผลการวิจัย พบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิตที่เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านระหว่างเรียนมีคะแนน ร้อยละ 83.33 และหลังเรียนมีคะแนน ร้อยละ 86.13 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ร้อยละ 80 2) ผลการเปรียบเทียบความสามารถในการกำกับตนเองของนักศึกษาระหว่างการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านกับการเรียนรู้แบบปกติ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยนักศึกษาที่เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านมีความสามารถในการกำกับตนเองสูงกว่านักศึกษาที่เรียนรู้แบบปกติ และ 3) ผลการเปรียบเทียบความพึงพอใจของนักศึกษาระหว่างการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านกับการเรียนรู้แบบปกติ แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยนักศึกษาที่เรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้าน มีความพึงพอใจสูงกว่านักศึกษาที่เรียนรู้แบบปกติ 

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
มณีอ่อน ส. . (2025). ผลการจัดการเรียนรู้ตามแนวคิดห้องเรียนกลับด้านที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความสามารถในการกำกับตนเองของนักศึกษาระดับปริญญามหาบัณฑิต. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 12(1), 129–143. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/277076
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กรวรรณ สืบสม และนพรัตน์ หมีพัด. (2560). การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลับด้าน (Flipped classroom) ด้วยการบูรณาการการเรียนการสอนรายวิชาเทคโนโลยีมัลติมีเดียผ่าน Google Classroom. สมาคมสถาบันอุดมศึกษาเอกชนแห่งประเทศไทย ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี, 6(2), 118-127.

กิตติพงษ์ พุ่มพวง และทิพรัตน์ สิทธิวงศ์. (2561). การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านร่วมกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือสำหรับนิสิตระดับอุดมศึกษา. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 20(2), 1-11.

กุลิสรา จิตรชญาวณิช. (2562). การจัดการเรียนรู้. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

จันทิมา เจริญผล. (2558). การพัฒนาระบบวิดีโอสตรีมมิงแบบปฏิสัมพันธ์ ตามแนวคิดเกมมิฟิเคชันร่วมกับการเรียนแบบรอบรู้เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการกำกับตนเอง สำหรับนิสิตนักศึกษาระดับปริญญาบัณฑิต. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

นิชาภา บุรีกาญจน์ และเอมอัชฌา วัฒนบุรานนท์ (2557). ผลการจัดการเรียนรู้วิชาสุขศึกษาโดยใช้ แนวคิดแบบห้องเรียนกลับด้านที่มีผลต่อความรับผิดชอบและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของ นักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น. วารสารอิเล็กทรอนิกส์ทางการศึกษา, 9(4), 253-267.

บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 10. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์น.

พราวเพ็ญธรรม เรืองศรี. (2560). การพัฒนากิจกรรมการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้านผ่านสื่อออนไลน์ที่ส่งผลต่อการนำตนเองของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย วิชาการงานอาชีพและเทคโนโลยี. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.

พันทิพา อมรฤทธิ์, ศรัญญา จุฬารี, ศุทธินี ศรีสวัสดิ์ และพงษ์ศักดิ์ วิทยเกียรติ. (2564). การศึกษารูปแบบการจัดการเรียนการสอนแบบห้องเรียนกลับด้าน สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี. รายงานวิจัย. มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.

รัฐสภา แก่นแก้ว, ณรงค์ สมพงษ์, และณัฐพล รำไพ. (2563). การพัฒนารูปแบบห้องเรียนกลับด้านด้วยกระบวนการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์เป็นฐานเพื่อส่งเสริมทักษะการสร้างสรรค์ผลงานของนักศึกษาด้านนิเทศศาสตร์ในระดับปริญญาตรี. วารสารชุมชนวิจัยและพัฒนาสังคม, 14(2), 189-203.

วิจารณ์ พานิช. (2556). ครูเพื่อศิษย์สร้างห้องเรียนกลับทาง. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงทพมหานคร: มูลนิธิสยามกัมมาจล.

สุทธิวิชญ์ พงษ์ธนาวิสิฐ. (2561). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติในบทเรียนเรื่อง พันธะโคเวเลนต์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสิรินธรราชวิทยาลัย จังหวัดนครปฐม โดยใช้วัฏจักรการเรียนรู้แบบ 5 ขั้นร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร์มหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยบูรพา.

สุรศักดิ์ ปาเฮ. (2556). ห้องเรียนกลับทาง: ห้องเรียนมิติใหม่ในศตวรรษที่ 21. เอกสารประกอบการประชุมผู้บริหารโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2. แพร่: สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาแพร่ เขต 2.

สุวิมล ว่องวาณิช. (2548). การวิจัยการประเมินความต้องการจำเป็น. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

องอาจ นัยพัฒน์. (2554). การออกแบบการวิจัย: วิธีการเชิงปริมาณ เชิงคุณภาพและผสมผสานวิธีการ. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

อติพร เกิดเรือง, ไชยวัฒน์ ค้ำชู และชัยพัฒน์ พันธุ์วัฒนสกุล. (2564). แนวทางการส่งเสริมการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 ของสถาบันอุดมศึกษาไทย. วารสาร มจร อุบลปริทรรศน์, 6(1), 781-790.

อุทิศ บำรุงชีพ. (2563). การพัฒนารูปแบบห้องเรียนกลับทางผ่านกูเกิ้ลคลาวด์คอมพิวติ้งและสื่อสังคมเพื่อส่งเสริมทักษะวิถีแห่งการคิดในศตวรรษที่ 21 สำหรับนิสิตครู. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร, 8(4), 1552-1566.

Bergmann, J. and Sams, A. (2023). Flip Your Classroom, Revised Edition: Reach Every Student in Every Class Every Day. International Society for Technology in Education.

Campbell, D. T. and Stanley, J. C. (1963). Experimental and Quasi-experimental Designs for Research on Teaching. Handbook of research on teaching, 171–246.

Galway, L. P., Berry, B. and Takaro, T. K. (2015). Student perceptions and lessons learned from flipping a master’s level environmental and occupational health course. Burnaby. Simon Fraser University. Canadian Journal of Learning and Technology, 41(2), 7.

Giannakos, M., Krogstie, J. and Chrisochoides, N. (2014). Reviewing the Flipped Classroom Research: Reflections for Computer Science Education. Conference: In Proceedings of the Computer Science Education Research Conference (CSERC'14) At: Berlin, Germany.

Likert. (1976). The Method of Constructing and Attitude Scale. New York: Wiley & Son.

McCallum, S., Schultz, J., Sellke, K. and Spartz, J. (2015). An Examination of the Flipped Classroom Approach on College Student Academic Involvement. Minnesota. Saint Mary’s University of Minnesota. International Journal of Teaching and Learning in Higher Education, 27(1), 42.

Strayer, J. F. (2007). The effects of the classroom flip on the learning environment: a comparison of learning activity in a traditional classroom and a flip classroom that used an intelligent tutoring system. Columbus, Ohio: the ohio state university.

Sun, J.C.Y. and Wu, Y.T. (2016). Analysis of Learning Achievement and Teacher-Student Interactions in Flipped and Conventional Classrooms. Hsinchu. National Chiao Tung University. International Review of Research in Open and Distributed Learning, 17(1), 79.

Trilling, B. and Fadel, C. (2009). 21st Century skills: Learning for life in our times. California: John Wiley & Sons.

Tucker, D. M. (2013). Investigating The Efficacy a Flipped Science Classroom Model. Montana: Intercollege Program for Science Education Montana State University.

Tune, J. D., Sturek, M. and Basile, D. P. (2013). Flipped classroom model improves graduate student performance in cardiovascular, respiratory, and renal physiology. Indiana. Indiana University School of Medicine. Advances in Physiology Education, 37(4), 316-320.

Wiginton, B. L. (2013). Flipped instruction: An investigation into the effect of learning environment on student self-efficacy, learning styles, and academic achievement in an algebra I classroom. Doctoral Dissertation, the University of Alabama.