รูปแบบภาวะผู้นําทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอิทธิบาท 4
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อวิเคราะห์องค์ประกอบของภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อสร้างรูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา ตามหลักอิทธิบาท 4 และ 3) เพื่อประเมินรูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา ตามหลักอิทธิบาท 4เป็นการวิจัยแบบผสมวิธีทั้งการวิจัยเชิงคุณภาพและการวิจัยเชิงปริมาณโดยมีวิธีดำเนินการวิจัย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 การวิเคราะห์องค์ประกอบของภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาด้วยการสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 18 คนใช้การวิเคราะห์เนื้อหา การใช้แบบสอบถามกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 434 คนตามแนวคิดของของ Hair วิเคราะห์ข้อมูลจากแบบสอบถามโดยใช้สถิติพรรณนา ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเพื่อหาระดับภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาและการวิเคราะห์องค์ประกอบใช้สถิติการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงสำรวจ (Exploratory Factor Analysis : EFA) ขั้นตอนที่ 2 การสร้างรูปแบบ การสัมมนาอิงผู้เชี่ยวชาญด้วยผู้ทรงคุณวุฒิที่ จำนวน 9 รูป/คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยการวิเคราะห์เนื้อหา วิเคราะห์ข้อมูลความเหมาะสมของคู่มือรูปแบบโดยใช้ค่าสถิติ ค่ามัชฌิมเลขคณิต และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 3 การประเมินรูปแบบ ใช้แบบประเมินกับผู้บริหารและครูวิชาการ จำนวน 30 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ได้แก่ ค่ามัชฌิมเลขคณิต ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า 1) องค์ประกอบของภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหาร ในภาพรวมอยู่ในระดับปานกลาง ประกอบด้วย 5 องค์ประกอบ ได้แก่ องค์ประกอบที่ 1 วิสัยทัศน์ เป้าหมายในยุคดิจิทัล มีตัวแปรสำคัญ 47 ตัวแปร องค์ประกอบที่ 2 บุคคลแห่งการเรียนรู้ในยุคดิจิทัล มีตัวแปรสำคัญ 15 ตัวแปร องค์ประกอบที่ 3 การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการในยุคดิจิทัล มีตัวแปรสำคัญ 5 ตัวแปร องค์ประกอบที่ 4 การสร้างนวัตกรรมเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล มีตัวแปรสำคัญ 5 ตัวแปร องค์ประกอบที่ 5 กัลยาณมิตรงานวิชาการในยุคดิจิทัล มีตัวแปรสำคัญ 5 ตัวแปร 2) รูปแบบภาวะผู้นําทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอิทธิบาท 4 ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ส่วนนำ แนวคิดและทฤษฎี วัตถุประสงค์รูปแบบ ส่วนที่ 2 เนื้อหาและแนวทางการดำเนินงาน 5 องค์ประกอบ ส่วนที่ 3 เงื่อนไขความสำเร็จ และ 3) ผลการประเมินรูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการในยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานจังหวัดนครสวรรค์ ตามหลักอิทธิบาท 4 ในรวมอยู่ในระดับมากทั้ง 4 ด้าน ได้แก่ ความถูกต้อง ความเหมาะสม ความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กนกอร สมปราชญ์. (2562). ภาวะผู้นำ: แนวคิด ทฤษฎีและการพัฒนา. ขอนแก่น: คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2564). สภาวะการศึกษาไทย ปี 2564. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาพการศึกษา.
กัลยา ติงศภัทิย์. (2557). ความท้าทาย ณ ขอบแดนใหม่แห่งการเรียนรู้: การศึกษาระบบ 4.0. ในการสัมมนาทางวิชาการ จัดสัมมนาโดยศูนย์นวัตกรรมการเรียนรู้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
จิณณวัตร ปะโคทัง. (2551). ภาวะผู้นำยุคดิจิทัล ของผู้บริหารสถานศึกษามืออาชีพ. อุบลราชธานี: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
จิติมา วรรณศรี. (2553). ภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษา. Journal of Education and Innovation. 12(1). 35–49.
ชัยยนต์ เพาพาน. (2559). แนวคิดและทฤษฎีพื้นฐานการเป็นผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารบริหารการศึกษา มหาวิทยาลัยขอนแก่น. 12(1). 1-9.
ทิพวรรณ โพธิ์ขำ. (2563). รูปแบบการบริหารโรงเรียนประชารัฐในยุคดิจิทัล สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์.
ทิศนา แขมมณี. (2547). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2554). พจนานุกรมพุทธศาสน์ฉบับบประมวลศัพท์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา.
พิชญ์ชญา มีแก้ว. (2564). รูปแบบการพัฒนาภาวะผู้นำทางวิชาการของครูในยุคดิจิทัลโรงเรียนมัธยมศึกษาขนาดเล็ก สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. ดุษฎีนิพนธ์การศึกษาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี.
ศศิศ ศิริพรหมมา. (2560). การพัฒนารูปแบบภาวะผู้นำทางวิชาการของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 1. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
สมหมาย อ่ำดอนกลอย. (2556). บทบาทผู้บริหารสถานศึกษาในศตวรรษที่ 21. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. 7(1). 1-7.
สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. (2564). แผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ 2564 ของสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ. กรุงเทพมหานคร: สำนักนโยบายและยุทธศาสตร์.
สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์. (2565). รายงานข้อมูลสารสนเทศทางการศึกษาของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดนครสวรรค์ ปีการศึกษา 2565. นครสวรรค์: ริมปิง.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2562). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรีรัตน์ โตเขียว. (2560). รูปแบบภาวะผู้นำของผู้บริหารสถานศึกษาขั้นพื้นฐานในศตวรรษที่ 21. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฎนครสวรรค์.
Anan Navee, P. (2009). Principles and concepts Educational Administration Theory. 2nd ed. Bangkok: Montree.
Issararak, A. (2005). Relationship between leadership and school effectiveness. Master of Education Thesis. Burapha University. Bangkok.
Roon Charoen. (2012). Professionalism in educational organization and administration in the educational reform era. 7th ed. Bangkok: LT Place Co.Ltd.
Wannasri, J. (2010). Academic leadership of school administrators. Journal of Education. 12(1). 35-49.