A MODEL OF PERSONNEL MANAGEMENT IN ACCORDANCE WITH THE PRINCIPLES OF SARANIYADHAMMA OF THE ADMINISTRATORS OF MAHACHULALONGKORNRAJAVIDYALAYA UNIVERSITY
Main Article Content
Abstract
This research article aimed to propose a model of personnel management based on the principles of Srṇīyadhamma for administrators of Mahachulalongkornrajavidyalaya University. It was a mixed-method research with 3 research steps: Step 1: To study the needs of personnel management of administrators; this was a quantitative research using a questionnaire with a sample group of 269 university lecturers. The research instrument was a questionnaire. Data were analyzed using statistics: percentage, mean, standard deviation, and PNIModified. Step 2: Developing a model; this was a qualitative research by interviewing 7 key informants and organizing a focus group discussion with 9 experts. The research instruments were an interview form and focus group discussion questions. Data were analyzed using content analysis. Step 3: Evaluating the model; this was a quantitative research using an evaluation form with a sample group of 226 university lecturers. The research instrument was an evaluation form. Data were analyzed using statistics: percentage, mean, and standard deviation. The results of the research found that: Personnel administration model based on the principle of Srṇīyadhamma of the administrators of Mahachulalongkornrajavidyalaya University consisted of 4 components: Component 1: Principle of Mahachulalongkornrajavidyalaya University as a state-controlled university at the higher education level and also a university of the Thai Sangha. The personnel were important to the university in pushing and promoting the university to develop its units until success was achieved. Therefore, the principle Srṇīyadhamma should be applied in personnel administration development. Component 2: Objective to apply the Saraniyadhamma principle to personnel administration. Component 3: Administration; 1) Personnel administration of administrators, 2) The 6 Srṇīyadhamma principles: (1) Mettkyakamma, doing good to one another, (2) Mettkvacīkamma, speaking kindly to one another, (3) Mettmanokamma, wishing good to one another, (4) Sdhraṇabhogit, sharing things with one another, (5) Silsmaññatā, having good behavior together, (6) Diṭṭhismaññatā, having common opinions. 3) Integrated personnel administration based on the principle of Srṇīyadhamma of administrators. Component 4: Application and evaluation results of the model in overall, the evaluation results were at the highest level in all four dimensions: usefulness, accuracy, feasibility, and appropriateness, respectively. In summary, the research knowledge was SCIPP, which included S (Srṇīyadhamma), C (Creating environment), I (Inspection process), P (Personnel recruitment announcement), and P (Personnel training).
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
References
ธวัชชัย รัตตัญญู. (2551). การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในโรงเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสยาม.
ธีรยุทธ พึ่งเทียร และสุรพล สุยะพรหม. (2543). การบริหารงานบุคคลและวิชาความถนัดเชิงวิเคราะห์. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์สูตรไพศาล.
พนัส หันนาคินทร์. (2542). ประสบการณ์ในการบริหารงานบุคคล. กรุงเทพมหานคร: พรานนกการพิมพ์.
พระครูสมุห์ทิพย์ สิริธมฺโม (การเพียร). (2561). รูปแบบการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของอาจารย์มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูสุตรัตโนภาส (ชูศักดิ์ จนฺทธมฺโม). (2561). รูปแบบการพัฒนาการจัดการศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาตามมาตรฐานอุดมศึกษาของมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระธรรมโกศาจารย์ (ประยูร ธมฺมจิตฺโต). (2549). พุทธวิธีบริหาร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2551). พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 16. กรุงเทพมหานคร: เอส. อาร์. พริ้นติ้ง แมส โปรดักส์.
มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2539). พระไตรปิฎกภาษาไทย ฉบับมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย. (2542). หลักเกณฑ์ พัฒนาบุคลากร. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย. (2550). เอกสารประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากรในมหาวิทยาลัยมหาจุฬามหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. (2545). หลักการบริหารงานบุคคล. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. (2540). การบริหารงานบุคคลในโรงเรียน. นนทบุรี: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
รุ่ง แก้วแดง. (2544). องค์การและการบริหาร. พิมพ์ครั้งที่ 4. กรุงเทพมหานคร: ไทยวัฒนาพานิช.
สมชาย หิรัญกิตติ. (2542). การบริหารทรัพยากรมนุษย์. กรุงเทพมหานคร: ธีระฟิล์มและไซเท็กซ์.
สมาน รังสิโยกฤษฏ์. (2544). ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล. พิมพ์ครั้งที่ 22. กรุงเทพมหานคร: น้ำกังการพิมพ์.
เอมรินทร์ จันทร์บุญนาค. (2560). การพัฒนารูปแบบการบริหารงานบุคคลสู่ความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.