รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรม ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นของการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรม 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรม และ 3) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรม เป็นการวิจัยแบบผสมผสานวิธี การวิจัยเชิงปริมาณใช้แบบสอบถามกลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้บริหารและครูโรงเรียนประถมศึกษา จำนวน 375คน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพสัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมายและการจัดสนทนากลุ่ม เครื่องมือในการวิจัยคือแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์ และคู่มือการสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัยด้วยการวิเคราะห์ด้วยค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ความต้องการจำเป็นของการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนประถมศึกษา เมื่อพิจารณาตามค่าดัชนี PNImodified ในภาพรวม คือ 0.432 และด้านที่มีความต้องการจำเป็นอันดับ 1 คือ ความประหยัด รองลงมาคือ ปฏิบัติตนเป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม และอันดับสุดท้ายคือความซื่อสัตย์สุจริต 2) รูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนประถมศึกษา กรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยชื่อรูปแบบ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งสู่การปลูกฝังคุณธรรมจริยธรรม และ 3) ผลการประเมินรูปแบบการจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของพระสอนศีลธรรมในโรงเรียนประถมศึกษา ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก สรุปองค์ความรู้การวิจัย คือ “SA”
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). คู่มือการจัดกระบวนการเรียนรู้หน้าที่พลเมืองศีลธรรม ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย. กรุงเทพมหานคร: คุรุสภาลาดพร้าว.
ธานินท์ ศิลป์จารุ. (2551). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพมหานคร: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
พระครูประทีปธรรมนาถ (ชุตินฺธโร). (2555). การจัดกิจกรรมส่งเสริมคุณธรรม และจริยธรรม ของนักเรียนโรงเรียนคลองเจริญราษฎร์ อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูวีรญาณนุยุต (นิพนธ์ ญาณวีโร/โสดา). (2555). กิจกรรมส่งเสริมศีลธรรมนักเรียนโรงเรียนกู่สว่างสามัคคี อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พัชรา บุญเล่า. (2538). ผลของการเข้าค่ายจริยธรรมพร้อมทั้งการให้คำปรึกษาแบบกลุ่มที่มีต่อจริยธรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1,2,3,. กรุงเทพมหานคร: คณะกรรมการการวิจัยการศึกษา กรมการศาสนาและการวัฒนธรรมของกระทรวงศึกษาธิการ.
พีระพงษ์ สายเชื้อ. (2559). โครงการโรงเรียนคุณธรรม มุ่งพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้เด็กพร้อมสร้างสังคมน่าอยู่. กรุงเทพมหานคร: โอเดี้ยนสโตร์.
สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร. (2564). รายงานสถิติการศึกษา ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร: ร้านพจน์กล่องกระดาษ.
สุวรีย์ ศิริโภคาภิรมย์. (2546). การวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 3. ลพบุรี: ฝ่ายเอกสารการพิมพ์สถาบันราชภัฏเทพสตรี.
สุวิมล ว่องวาณิช. (2558). การวิจัยประเมินความต้องการจำเป็น. พิมพ์ครั้งที่ 3 ฉบับปรับปรุง.กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุวิมล ว่องวานิช. (2542). การสังเคราะห์เทคนิคที่ใช้ในการประเมินความต้องการจำเป็นในนิสิตคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. รายงานวิจัย. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
แสงจันทร์ มโนสร้อย (2550). สภาพการเรียนการสอนจริยธรรม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนใน อำเภอเวียงหนองล่อง. วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
Keeves, Peter J. (1988). Model and Model Building: Educational Research Methodology and Measurenment : An Intermational Handbook. Oxford: Pergamon Press.
Krejcie, R. V. & Morgan, D. W. (1970). Determining sample size for research activities. Educational and Psychological Measurement. 30(3). 607–610.