การพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัลตามแนวพุทธของผู้บริหารสถานศึกษา
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อนำเสนอการพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัลตามแนวพุทธของผู้บริหารสถานศึกษา โดยใช้ระเบียบวิธีวิจัยแบบผสานวิธี ได้แก่ วิจัยเชิงคุณภาพ โดยสัมภาษณ์เชิงลึกจากผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 14 คน และวิจัยเชิงปริมาณ จากกลุ่มตัวอย่าง 2 กลุ่ม กลุ่มตัวอย่างแรก คือ ผู้บริหารและครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี จำนวน 354 คน กลุ่มตัวอย่างที่สอง คือ ผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี จำนวน 161 คน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ค่าเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า การพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัลตามแนวพุทธของผู้บริหารสถานศึกษา ประกอบด้วย 1) หลักการพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัล 2) วัตถุประสงค์การพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัล 3) องค์ประกอบของภาวะผู้นำด้านดิจิทัล 4) วิธีการพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัล 5) ขั้นตอนการพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัล 6) หลักธรรมในการพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัล คือ หลักอิทธิบาท 4 และ 7) ปัจจัยแห่งความสำเร็จในการพัฒนาภาวะผู้นำด้านดิจิทัลตามแนวพุทธของผู้บริหารสถานศึกษา โดยผลการเสนอในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านจากมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความเป็นประโยชน์ ด้านความถูกต้อง ด้านความเหมาะสม และด้านความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2552). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ. กรุงเทพมหานคร: บิซิเนสอาร์แอนด์ดี.
นงลักษณ์ เรือนทอง. (2550). รูปแบบการบริหารโรงเรียนที่มีประสิทธิผล. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต.มหาวิทยาลัยศิลปากร.
บุญชุม ศรีสะอาด. (2535). วิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพมหานคร: สุวีริยาสาส์นการพิมพ์.
พระพรหมคุณาภรณ์ (ป. อ. ปยุตฺโต). (2554). พจนานุกรมพุทธศาสน์ ฉบับประมวลศัพท์. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์พระพุทธศาสนาของธรรมสภา.
วรรณลัดดา ถิ่นกลาง. (2556). การเป็นผู้นำทางวิชาการการบริหารจัดการทางการศึกษา. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา.
วีณา เอื้อศิรินุเคราะห์ และคณะ. (2554). ทิศทางในการพัฒนาทักษะทางการบริหารของผู้บริหารมหาวิทยาลัยมหิดล. นครปฐม: มหาวิทยาลัยมหิดล.
สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). แผนปฏิบัติการด้านดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2561-2565) ภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วย การพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (พ.ศ. 2561-2580). กรุงเทพมหานคร: กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม.
สุกัญญา แช่มช้อย. (2561). การบริหารสถานศึกษาในยุคดิจิทัล. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุภางค์ จันทวานิช. (2552). การวิเคราะห์ข้อมูลในการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรัชนี เคนสุโพธิ์. (2560). การฝึกอบรมและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. อุดรธานี: มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี.
เอกชัย กี่สุขพันธ์. (2559). การบริหารสถานศึกษายุคดิจิทัล (School Management in Digital Era). แหล่งที่มา https://www.trueplookpanya.com/knowledge/content/52232/-edu-t2s1-t2-t2s3- สืบค้นเมื่อ 2 มิ.ย. 2564.
Dessler. (2004). Seven Steps to Effective Instructional Leadership. California: Carwin Press.
Kouzes & Posner. (1997). The Leadership Challenge. San Francisco: Jossey-Bass.
McCauley & Velser. (1988). Effective Leadership. 4rd ed. Toronto: Nelson Education.
Sheninger, E. (2014). Digital Leadership: Changing Paradigms for Changing Times. Thousand Oaks, CA: Corwin Press.