รูปแบบการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานตามหลักพุทธบริหารการศึกษาของนักเรียน สถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา

Main Article Content

ว่าที่พันตรีวิเชียร ดีฉาย
อินถา ศิริวรรณ
พระครูกิตติญาณวิสิฐ (ธนา กิตติญาโณ)

บทคัดย่อ

บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเสนอรูปแบบการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานตามหลักพุทธบริหารการศึกษาของนักเรียนสถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี โดยมีขั้นตอนการวิจัย 3 ขั้นตอน ได้แก่ ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานตามหลักพุทธบริหารการศึกษา ใช้แบบสอบถามนักเรียนและนักศึกษา 394 คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติ ได้แก่ ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 พัฒนารูปแบบ ด้วยสัมภาษณ์ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ 10 รูป/คน และขั้นตอนที่ 3 เสนอรูปแบบ ด้วยการสนทนากลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ 10 รูป/คน สรุปผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานตามหลักพุทธบริหารการศึกษาของนักเรียนสถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประกอบด้วย 4 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 ส่วนนำ 1) สภาพแวดล้อม สภาพแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก 2) หลักการ ทักษะความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 12 ทักษะ 3) วัตถุประสงค์ ประโยชน์ของการเรียนรู้แบบผสมผสานวิธี ส่วนที่ 2 ตัวแบบ 1) ระบบงาน กระบวนการคิดอย่างมีวิจารญาณ คือ (1) ตั้งเป้าหมายในการคิด (2) ระบุประเด็นปัญหาในการคิด (3) ประมวลข้อมูลทั้งที่เป็นจริงและเท็จความคิดเห็นที่เกี่ยวข้องในทุกมิติ (4) วิเคราะห์ จัดหมวดหมู่ และเลือกข้อมูลที่จะนำไปใช้ (5) ประเมินข้อมูลที่จะใช้ในแง่ความถูกต้องและความน่าเชื่อถือ (6) ใช้หลักเหตุผลในการพิจารณาถึงผลที่จะตามมาและคุณค่า (7) ชั่งน้ำหนักผลได้และโทษ (8) ไตร่ตรองทบทวนอย่างรอบคอบ (9) ประเมินทางเลือกและลงความเห็นเกี่ยวกับประเด็นที่คิด 2) กระบวนการจัดการ ขั้นตอนการพัฒนาการคิดอย่างมีวิจารณญาณ คือ สร้างเป็นมโนมติ การแปลความหมายข้อมูล การประยุกต์หลักการ ส่วนที่ 3 ขั้นตอนการนำไปใช้ 1) โครงสร้าง 2) การตัดสินใจ 3) แนวทางการประเมิน และส่วนที่ 4 เงื่อนไขความสำเร็จ ได้แก่ บริบทของสถาบันอาชีวะศึกษา

Article Details

รูปแบบการอ้างอิง
ดีฉาย ว., ศิริวรรณ อ., & (ธนา กิตติญาโณ) พ. (2021). รูปแบบการพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณด้วยการเรียนรู้แบบผสมผสานตามหลักพุทธบริหารการศึกษาของนักเรียน สถาบันอาชีวศึกษาภาคกลาง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 8(1), 274–285. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/EDMCU/article/view/248528
ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

กระทรวงศึกษาธิการ. (2559). แผนพัฒนาการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 – 2579). แหล่งที่มา http://www.bpp.mua.go.th/main/download/plan/EducationPlan12.pdf สืบค้นเมื่อ 15 ม.ค. 2563.

ทิศนา แขมณี. (2551). ศาสตร์การสอน องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิ์ภาพ. กรุงเทพมหานคร: ด่านสุทธาการพิมพ์.

นุชนาถ ชูกลิ่น. (2552). ผลของการใช้กิจกรรมการอภิปรายแบบผสมผสานและกระดานสนทนาในการเรียนรู้ด้วยกรณีศึกษาที่มีต่อการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนมัธยมศึกษาปี ที่ 5. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

พระครูโสภณภัทรเวทย์ (อิทธิพล ปธานิโก), สมศักดิ์ บุญปู่ และสุทธิพงษ์ ศรีวิชัย. (2563). รูปแบบการพัฒนากิจกรรมการส่งเสริมคุณธรรมของนักเรียนสำหรับโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา. วารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย. 7(2). 231-241.

พระมหาประยูร ติกฺขปญฺโญ (ช่างการ). (2558). รูปแบบการพัฒนาบุคลากรเพื่อเสริมสร้างองค์การแห่งการเรียนรู้ในวิทยาลัยอาชีวศึกษาตามหลักพุทธบริหารการศึกษา. ดุษฎีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.

สูติเทพ ศิริพิพัฒนกุล. (2553). การพัฒนาความสามารถในการแก้ปัญหาและการเรียนรู้เป็นทีมของนิสิตปริญญาบัณฑิตด้วยรูปแบบการเรียนแบบผสมผสานที่ใช้เทคนิคการเรียนร่วมกันด้วย กรณีศึกษาและเทคโนโลยีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ต่างกัน. ดุษฎีนิพนธ์ครุศาสตรดุษฎีบัณฑิต. จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

hrnote.asia. (2562). การศึกษา (Education) สำคัญอย่างไรกับการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์. แหล่งที่มา https://th.hrnote.asia/orgdevelopment/190625-education-for-hrd/ สืบค้นเมื่อ 15 ม.ค. 2563

Waheduzzaman, Wahed. (2010). People’s Participation for Good Governance: A Study of Rural Development Programs in Bangladesh. Docteral Thesis. Victoria University, Australia.