THE MODEL OF CULTURAL HERITAGE IMMUNITY AND PROTECTING PUBLIC INTEREST CURRICULUM
Main Article Content
Abstract
The purposes of this research article were 1) to analyze the Immunization process of cultural heritage of the floating market community in Ratchaburi province, 2) to synthesize the guidelines of creating the heritage immunity and public interest of the floating market communities in Ratchaburi province, and 3) to present the model of cultural heritage immunity and protecting public interest curriculum of the floating market communities in Ratchaburi province. This research was an operational research with the important data obtained from in-depth interviews and specific group discussions from 23 people by a specific random method according to the characteristics of representation of an appropriate sample group. The data were analyzed by trying to maintain the original phrases in order to serve as a base for analysis and design the model of cultural heritage immunity and public interest of communities that appropriate and consistent with current conditions, and put it to the field test with 30 volunteers. Analyzing the performance process by each indicator together with reference statistics to find the fact from the practice of the form of action research. The findings of this research were following: 1) The Immunization process of cultural heritage of the floating market community in Ratchaburi province found that some youth lack of social consciousness, etc., 2) the guidelines of creating the heritage immunity and public interest of the floating market communities in Ratchaburi province that appropriate and consistent with current conditions found that the curriculum should be local and produced according to the objectives related to the problems in the community and society in accordance with local wisdom and way of life, faith and religious beliefs, and 3) the model of cultural heritage immunity and public interest curriculum of the communities was “the model of cultural heritage immunity and public interest curriculum of the Damnoen Saduak floating market communities” was based on learner-centeredness, adhering to democracy principles, and focused on engaging and creative processes.
Keywords: Model, Curriculum, Cultural Heritage Immunity and Protecting Public Interest
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
References
ชนันภรณ์ อารีกุล, พระมหามนตรี ญาณมนฺโต, พระทอง ฐิตปญฺโญ, สุวิทย์ แซวรัมย์ และกิตติรัฐ หุ่นภู. (2560). การพัฒนากรอบหลักสูตรการศึกษาเพื่อสร้างพลเมืองตามแนวพระพุทธศาสนา. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ปิยะนุช ศิริราชธรรม, (2561). มาตรการทางกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาเพื่อการส่งเสริมและสืบทอดมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม: ศึกษากรณีต้มยำกุ้ง. วิทยานิพนธ์นิติศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยสยาม.
พรรณงาม โควานนท์. (2558). การศึกษาองค์ความรู้มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมการปั้นและหล่อพระพุทธรูปโลหะบ้านช่างหล่อ ตำบลหายยา อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่.
พลอยภัทรา ตระกูลทองเจริญ. (2557). การศึกษาความตระหนักในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วม: กรณีศึกษา หมู่บ้านศาลาแดงเหนือ เชียงรากน้อย. วิทยานิพนธ์สถาปัตยกรรมศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยกรุงเทพ.
มงคลกิตต์ โวหารเสาวภาคย์, จิราภรณ์ คล้อยปาน และศิวพร จติกุล. (2561). โรงเรียนผู้สูงอายุ: องค์ประกอบ รูปแบบและการพัฒนาหลักสูตรและกิจกรรมเพื่อการเสริมสร้างสุขภาวะผู้สูงอายุ. รายงานการวิจัย. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
ราตรี โตเพ่งพัฒน์. (2543). ตลาดน้ำ: วิถีชีวิตของเกษตรกรภาคกลาง. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์คุรุสภาลาดพร้าว.
สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย. (2561). ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในประเทศไทย ไตรมาสที่ 4 ปี 2561. กรุงเทพมหานคร: สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย.
สุนทร ศรีหนองบัว. (2560). การเรียนรู้ร่วมกันเพื่อการจัดการวัฒนธรรมท้องถิ่น บ้านสาวะถี ตำบลสาวะถี อำเภอเมืองขอนแก่น จังหวัดขอนแก่น. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สุนทรชัย ชอบยศ. (2562). แนวทางในการจัดการมรดกทางวัฒนธรรมโดยความร่วมมือของภาคส่วนต่างๆ ในท้องถิ่น: กรณีศึกษาการจัดการสิมและฮูปแต้ม ตำบลดงบัง อำเภอนาดูน จังหวัดมหาสารคาม.วารสารการเมืองการปกครอง. 9(3). 55.
อธิป จันทร์สุริย์. (2561). การพัฒนาตัวบ่งชี้การจัดการมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมเป็นฐานสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ จังหวัดชุมพร. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต. มหาวิทยาลัยศิลปากร.
Feilden B.M. & J. Jokilehto. (1998). Management Guidelines for World Heritage Sites. Rome: N.P.