แนวทางการเตรียมความพร้อมการรักษาโรคด้วยหัตถเวชของนักศึกษาแพทย์แผนไทย
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการเตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจสำหรับนักศึกษาแพทย์แผนไทยก่อนทำการรักษาโรคด้วยหัตถเวช (การรักษาด้วยมือ) โดยมีวิธีการศึกษาจากการทบทวนเอกสารตำราและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมความพร้อมการรักษาโรคด้วยหัตถเวชของการแพทย์แผนไทย การแพทย์แผนจีน การแพทย์แผนปัจจุบัน และความรู้การฝึกความแข็งแรงของมือทางวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อเป็นแนวทางการเตรียมความพร้อมการรักษาโรคด้วยหัตถเวชสำหรับนักศึกษาแพทย์แผนไทย ผลการศึกษาพบว่า การเตรียมความพร้อมการรักษาโรคด้วยหัตถเวชของนักศึกษาแพทย์แผนไทยต้องอาศัยองค์ประกอบหลัก 3 ส่วน คือ 1) การเตรียมความพร้อมด้านจิตใจด้วยการทำสมาธิเพื่อให้มีสติ สมาธิในการรักษา รวมถึงการระลึกถึงคุณครูบาอาจารย์ก่อนทำการรักษา 2) การเตรียมความพร้อมด้านการดูแลสุขอนามัยของมือ ควรหมั่นดูแลรักษาความสะอาดของมือทั้งก่อนและหลังการรักษาผู้ป่วยด้วยการล้างมือด้วยน้ำสบู่หรือถูมือด้วยแอลกอฮอล์เจล 7 ขั้นตอนเพื่อลดการปนเปื้อนและการแพร่กระจายของเชื้อโรค และ 3) การเตรียมความพร้อมด้านการฝึกความแข็งแรงของมือด้วยการบริหารมือเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ โดยการใช้มือออกแรงต้านวัตถุหนึ่งในลักษณะการกำ-แบมือ หรือการเกร็งกล้ามเนื้อมือในช่วงเวลาหนึ่ง และควรเพิ่มระดับการฝึกจากน้ำหนักที่น้อยไปหาน้ำหนักที่เพิ่มมากขึ้น จากการศึกษาครั้งนี้ทำให้ได้แนวทางในการเตรียมความพร้อมการรักษาโรคด้วยหัตถเวชสำหรับนักศึกษาแพทย์แผนไทย โดยสามารถนำความรู้ไปพัฒนาต่อยอดให้เป็นคู่มือการเตรียมความพร้อมการรักษาโรคให้กับนักศึกษาแพทย์แผนไทยก่อนทำการรักษาโรคด้วยหัตถเวช
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมพลศึกษา. (2559). คู่มือแบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกายสำหรับประชาชน อายุ 19 - 59 ปี. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: โอเคแมส.
กระทรวงสาธารณสุข กรมควบคุมโรค. (2556). คู่มือปฏิบัติการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ดานนท์. (2545). ชี่กง วิถีบำบัดแห่งธรรมชาติ. พิมพ์ครั้งที่ 2. สมุทรปราการ: เพ็ญวัฒนาจัดจำหน่าย.
ธีรศักดิ์ อาภาวัฒนากุล. (2552). หลักวิทยาศาสตร์ในการฝึกกีฬา. กรุงเทพมหานคร: ส.เอเชียเพรส (1989).
ประโยชน์ บุญสินสุข และศิริวรรณ เสงี่ยมมหาศาล. (2533). การบริหารข้อนิ้วมือและมือ. แหล่งที่มา https://www.doctor.or.th. สืบค้นเมื่อ 5 ม.ค. 2560.
พระราชบัญญัติวิชาชีพการแพทย์แผนไทย พ.ศ. 2556. (2556). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 130 ตอนที่ 10 ก. หน้า 2 (25 มีนาคม 2560).
พระอาจารย์วิริยังค์ สิรินธโร. (2560). หลักสูตรครูสมาธิ เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 18. กรุงเทพมหานคร: ประชาชน.
เพชรรัตน์ เจิมรอด. (2560). ชี่กงกับการดูแลสุขภาพ. วารสารพยาบาลสภากาชาดไทย. 10(1). 44-54
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย วิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก. (2562). ตำราการนวดรักษาของวิทยาลัยการแพทย์พื้นบ้านและการแพทย์ทางเลือก. เชียงราย: วนิดาการพิมพ์.
มูลนิธิฟื้นฟูส่งเสริมการแพทย์ไทยเดิมฯ อายุรเวทวิทยาลัย. (2555). หัตถเวชกรรมแผนไทย (นวดแบบราชสำนัก). กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์อุษาการพิมพ์.
มูลนิธิสาธารณสุขกับการพัฒนา. (2552). ตำราการนวดไทย เล่ม 1. พิมพ์ครั้งที่ 4. นนทบุรี: พิมพ์ดี.
สถาบันบำราศนราดูร. (2551). แนวปฏิบัติการทำความสะอาดมือสำหรับบุคลากรสุขภาพในโรงพยาบาล.กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ.
สันติ ตั้งรพีพากร. (2552). ฝึกชี่กงอย่างง่ายแบบ DCP. กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์บ้านพระอาทิตย์.
สุธิดา วิริยา. (2563). การพัฒนารูปแบบและประเมินผลการฝึกความแข็งแรงของมือให้มีความพร้อมในการรักษาโรค. รายงานสืบเนื่องจากการประชุมวิชาการและนำเสนอผลงานวิจัยบัณฑิตศึกษาระดับชาติ มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด ครั้งที่ 2 นวัตกรรมสร้างสรรค์ ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน. มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด.