การสร้างแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลส่งเสริมสุขภาวะ สู่ชีวิตวิถีใหม่ตามสภาวะโรคอุบัติใหม่ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต
คำสำคัญ:
แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล, ชีวิตวิถีใหม่, เด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้, คุณภาพชีวิตบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานทั่วไปและลักษณะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานครที่เปิดการจัดการศึกษาพิเศษ (เรียนร่วม) 2) เพื่อสร้างและศึกษาผลการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลชุดแบบฝึกทักษะส่งเสริมสุขภาวะสู่ชีวิตวิถีใหม่ตามสภาวะโรคอุบัติใหม่ของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ 3) เพื่อประเมินความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลชุดแบบฝึกทักษะ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ครูผู้สอนที่เกี่ยวข้องกับเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้จำนวน 27 คน เลือกแบบเจาะจง และเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบสอบถาม 2) แบบทดสอบก่อนและหลัง 3) แบบประเมินการใช้แพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลชุดแบบฝึกทักษะการเรียนรู้ 4) แบบประเมินความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลชุดแบบฝึกทักษะ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
- ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลของครูผู้สอน และข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่า ครูผู้สอนส่วนใหญ่ใช้เทคโนโลยียุคดิจิทัลผ่านช่องทางโทรศัพท์มือถือ/สมาร์ทโฟน สำหรับการปฏิบัติงานมือถือมากที่สุด และครูผู้สอนส่วนใหญ่ใช้ได้ด้วยตนเองอย่างชำนาญ ส่วนข้อมูลเกี่ยวกับพฤติกรรมและปัญหาของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่าด้านการอ่าน ภาพรวมมีทักษะอยู่ในระดับน้อย ด้านการเขียน ภาพรวม มีทักษะอยู่ในระดับปานกลาง ส่วนด้านการคิดคำนวณ ภาพรวมมีทักษะอยู่ในระดับน้อย
- ผลของการสังเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการสร้างต้นแบบแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัลด้วยชุดแบบฝึกทักษะจากการถอดบทเรียน พบว่าพฤติกรรมและปัญหาของเด็ก LD ด้านการอ่าน เช่น การอ่านสะกดคำการอ่านจับใจความ ด้านการเขียน เช่น เขียนอักษรกลับด้าน และด้านการคิดคำนวณ เช่น ตีโจทย์ปัญหาบวก ลบ คูณ หารไม่ถูกต้อง ส่วนผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบทดสอบก่อนและหลังเรียนรู้ใช้แพลตฟอร์มชุดแบบฝึกทักษะ พบว่าหลังการใช้ชุดแบบฝึกทักษะค่าเฉลี่ยของคะแนนสูงกว่าก่อนใช้ชุดแบบฝึกทักษะ และผลการวิเคราะห์ข้อมูลจากการประเมินเปรียบเทียบการใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลชุดแบบฝึกทักษะของเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้ พบว่าด้านการอ่าน ด้านการเขียน และด้านการคิดคำนวณ คะแนนครั้งที่ 2 หลังการใช้ชุดแบบฝึกทักษะคะแนนสูงกว่าครั้งที่ 1 ผลการเปรียบเทียบคะแนนครั้งที่ 2 พัฒนาขึ้นกว่าคะแนนครั้งที่ 1อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.01
- ผลการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับความคิดเห็นของครูผู้สอนที่มีต่อแพลตฟอร์มการเรียนรู้ดิจิทัล ชุดแบบฝึกทักษะ พบว่าครูผู้สอนในภาพรวมมีความพึงพอใจต่อชุดแบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้เนื่องจากแพลตฟอร์มดิจิทัลชุดแบบฝึกทักษะเป็นเทคโนโลยีที่อำนวยความสะดวก ในรูปแบบต่างๆ และสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ให้กับเด็กLDได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถดำรงใช้ชีวิตวิถีใหม่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี และมีความสุข
เอกสารอ้างอิง
ณชญาดา แก้วแสงอินทร์ เพ็ญพิสุทธิ์ ใจสนิท วิชิต เทพประสิทธิ์. (2560). การพัฒนาทักษะการอ่านการเขียนสำหรับนักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้ (L.D.) โดยใช้ชุดฝึกทักษะการอ่านการเขียนภาษาไทย.โรงเรียนอนุบาลนางแล (บ้านทุ่ง). วารสารบัณฑิตศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฎเชียงราย 10(2) น. 8-9.
ทวีศักดิ์ สิริรัตน์เรขา. (2560). เด็กพิเศษ หนูเป็นใครมาจากไหน. ค้นเมื่อ 25 พฤศจิกายน 2567, จาก http://www.happyhome clinic.com/sc 02-special-child-who.html.
เทื้อน ทองแก้ว. (2563). การออกแบบการศึกษาชีวิตวิถีใหม่ : ผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID - 19.วารสารคุรุสภาวิทยาจารย์ (1)2, น. 1-3.
นพเก้า วรรณศิริ, เสนอ ภรมจิตรผ่อง และศิริพันธ์ ศรีวันยงค์. (2563). รูปแบบการประเมินนักเรียนที่บกพร่องทางการเรียนรู้ด้านการคิดคำนวณ. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยนครพนม, 10(1) น. 83.
นิวัฒน์ สาระขันธ์. (2565). การสอนเด็กที่มีความบกพร่องทางการเรียน. Journal of Roi Kaensarn Academi 7(2), น. 410-413.
พิสณุ ฟองศรี. (2553). เทคนิควิธีการประเมินโครงการ. พิมพ์ครั้งที่ 7, กรุงเทพฯ: ดานสุทธาการพิมพ์.
ภัทรสุดา ยะบุญวัน. (2564). การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้เรื่อง การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับการเรียนการสอนด้วยสื่ออินโฟกราฟิกที่ส่งผลต่อการรู้ดิจิทัลของนักศึกษาวิชาชีพครูคณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศิลปากร. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีการศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
ภาวิกา นพคุณ. (2561). การพัฒนาความสามารถนักเรียนที่ดีความบกพร่องทางการเรียนรู้โดยการเรียนรู้จากประสบการณ์วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน วิทยาลัยครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์.
รุ่งอุทัย บุญพรหม. (2563). Digital Learning Platform : เทรนด์การรู้ในยุคดิจิทัล. วารสารปัญญพัฒน์. 39 (1), น. 86.
วิไลภรณ์ คำมั่น และ สำราญ มีแจ้ง. (2564). “การจัดการเรียนรู้ยุค New Normal วิถีชีวิตใหม่ ความท้าทายของครูไทย.” วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, (15)3, น. 7-19.
วิไลวรรณ วงศ์จินดา, สุวิมล พิบูลย์ และอนันต์ คัมภิรานนท์. (2564). แพลตฟอร์มการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาทักษะการเรียนในศตวรรษที่ 21. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ.
สาวิตรี จุ้ยทอง มารุต พัฒผล และวิชัย วงษ์ใหญ่. (2559). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริมความสามารถด้านการคำนวณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีความบกพร่องทางการเรียนรู้เรียนรวมกับนักเรียนทั่วไปที่มีแบบการเรียนรู้ต่างลักษณะกัน. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 6(2), น. 1-12.
สุมิตรา โรจนนิติ บุญมั่น ธนาศุภวัฒน์ และนิตยา สุวรรณศรี. (2565). การจัดการเรียนรู้ในโรงเรียนสำหรับเด็กแอลดี. วารสารวไลยอลงกรณ์ปริทัศน์ (มนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 12(2), น. 10-16.
สำนักการศึกษากรุงเทพมหานคร. (2564). รายงานสถิติการศึกษา ปีการศึกษา 2564 โรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร. กรุงเทพมหานคร : ร้านพจน์กล่องกระดาษ.
สำนักงานราชบัณฑิตสภา. (2558). พจนานุกรมศัพท์ศึกษาศาสตร์ร่วมสมัย. กรุงเทพมหานคร : เจี้ยฮั้ว.
Hammill, D.D., Leigh, J.E., &McNutt,G. (1988). A New definition of learning disabilities. Retrieved. Nov11, 2015, from http:.//journals.sagepub.com/doi/pdf/10.2307/1510766.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
ข้อความที่ปรากฏในบทความแต่ละเรื่องในวารสารวิชาการเล่มนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่านไม่เกี่ยวข้องกับมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรีและบุคลากรท่านอื่นๆในมหาวิทยาลัยฯ แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใดๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเองแต่ผู้เดียว
