รูปแบบและแนวทางการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน/นักศึกษา ในกรุงเทพมหานคร.
คำสำคัญ:
การป้องกัน, ทะเลาะวิวาท, นักเรียน, นักศึกษาบทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งมีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์การก่อเหตุทะเลาะวิวาท รวมถึงศึกษาขั้นตอนวิธีการปฏิบัติงาน และปัญหาอุปสรรคของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาท จากนั้นจะเป็นการศึกษาเพื่อเสนอแนะรูปแบบและแนวทางการป้องกันและเป็นการสร้างคู่มือการจัดการความรู้ในการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน/นักศึกษาในกรุงเทพมหานคร ซึ่งการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ผลการวิจัยพบว่า พฤติกรรมการก่อเหตุทะเลาะวิวาทมีสาเหตุมาจากการรับค่านิยมที่ไม่ดีมาจากรุ่นพี่ การหาอาวุธในการทะเลาะวิวาทหาได้ง่ายขึ้นส่งผลให้พฤติกรรมการทะเลาะวิวาทของนักเรียน/นักศึกษามีความรุนแรงมากขึ้น ในส่วนของขั้นตอนวิธีการปฏิบัติงานและปัญหาอุปสรรคของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องนั้นจะต้องมีการทำงานร่วมกันเป็นภาคีเครือข่ายอย่างเข้มแข็ง แต่ปัญหาอุปสรรคคือการปฏิบัติงานร่วมกันของเครือข่ายมีจำนวนผู้ปฏิบัติงานลดลง การติดต่อประสานงาน การสานต่อนโยบายการป้องกันแก้ไขการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของทุกภาคส่วนยังมีความไม่สอดคล้องและไม่นื่อง จากนั้นจะเป็นการจัดทำคู่มือการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน/นักศึกษา โดยรวบรวมข้อมูลแนวทางในการป้องกัน ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาการป้องกันการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของนักเรียน/นักศึกษา พร้อมทั้งการสำรวจรายชื่อของหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกทั้งจะมีการปรับข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ
เอกสารอ้างอิง
จิรพัฒน์ พรหมสิทธิการ. (2543). ปัจจัยที่มีผลต่อการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษา : ศึกษากรณีเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
ชาญคณิต กฤตยา สุริยะมณี. (2554). ทฤษฎีอาชญาวิทยาร่วมสมัยกับการวิจัยทางด้านอาชญาวิทยาในปัจจุบัน. นนทบุรี: หยินหยางการพิมพ์
ณัฏฐาภรณ์ โสกัณฑัต. (2557). พฤติกรรมการใช้ความรุนแรง กรณีศึกษาการทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษาในเขตกรุงเทพมหานคร. ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
รุจิราพร หงส์ทอง. (2550). การจัดทำฐานข้อมูลสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อการเฝ้าระวังและเตือนเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของนักเรียนระดับอาชีวศึกษา เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์.
สุณีย์ กัลยะจิตร. (2556). ปัญหาการกระทำผิดของเด็กและเยาวชน: แนวทางการป้องกัน และการแก้ไข. กรุงเทพมหานคร: สินทวี พริ้นติ้ง.
สุภางค์ จันทวานิช. (2561). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ. พิมพ์ครั้งที่ 24. โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
อุษารัตน์ นิติยารมย์. (2548). กระทรวงศึกษาธิการกับการจัดการแก้ไขปัญหาทะเลาะวิวาทของนักเรียนอาชีวศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
Aker, Ronald L. (1994). Criminological Theories: Introduction, Evaluation and Application. (4th ed.). Los Angeles, CA: Roxbury Publishing Company.
Becker, Gary S. (1968). Crime and punishment: An economic approach. Journal of Political Economy 76 (2): 169-217.
Cohen, Lawrence E. and Marcus Felson. (1979). Social change and crime rate trends: A routine activities approach. American Sociological Review 44: 588-609.
Hirschi, T. (1969). Causes of Delinquency. Berkeley, University of California Press.
Michael Gottfredson and Travis Hirschi. (1990). Self-Control Theory and Crime. Oxford Research Encyclopedia of Criminology. July 2017: 1-27.
Schur. (1971). Labelling Deviant Behavior. New York: Harper & Row.
Sutherland, Edwin H and Donald, Cressey R. (1987). The Professional Thief. Chicago, IL: Universityof Chicago Press.
เวปไซต์
พนม เกตุมาน. (2550). ปัญหาพฤติกรรมวัยรุ่น. 15 มิถุนายน 2556. http://www.psyclin. co.th/new_page_57.htm
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

