การส่งเสริมและสนับสนุนของครูเพื่อให้นักเรียนวัยรุ่นตอนต้น เรียนเปียโนอย่างต่อเนื่อง
คำสำคัญ:
นักเรียนวัยรุ่นตอนต้น, เรียนเปียโน, การส่งเสริมและสนับสนุนของครูบทคัดย่อ
งานวิจัยในครั้งนี้เป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพรูปแบบการศึกษาเฉพาะกรณี มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาถึงพฤติกรรมของนักเรียนวัยรุ่นตอนต้นก่อนที่จะนำไปสู่การเลิกเรียน ศึกษาถึงสาเหตุของการเลิกเรียนเปียโนของนักเรียนวัยรุ่นตอนต้น และศึกษาวิธีการในการส่งเสริมและสนับสนุนของครูเพื่อให้นักเรียนวัยรุ่นตอนต้นเรียนเปียโนอย่างต่อเนื่องโดยการสัมภาษณ์ครูเปียโนทั้งหมด 10 ท่าน ผลการวิจัยพบว่านักเรียนที่เลิกเรียนเปียโนไปนั้นมีพฤติกรรมดังนี้ คือ มีความตั้งใจในการเรียนลดลงและไม่มีสมาธิในระหว่างเรียน การตอบสนองต่อคำสั่งของครูลดลง มีเวลาในการซ้อมลดลง ลาหยุดและขาดเรียนบ่อย โดยสาเหตุหลักของการเลิกเรียน คือ นักเรียนต้องเรียนพิเศษเพื่อเตรียมตัวสอบในระดับมัธยมหรือมหาวิทยาลัย มีความสนใจในการเรียนลดลง ไม่ชอบการซ้อม และผู้ปกครองไม่ให้ความสนใจและสนับสนุนต่อการเรียน ซึ่งครูได้ใช้วิธีการส่งเสริมและสนับสนุนโดยการตั้งเป้าหมายในการเรียนการสอนร่วมกับนักเรียน ทำงานร่วมกันกับผู้ปกครอง ใช้สื่อการสอนประเภทต่างๆ ใช้บทเพลงนอกบทเรียนในการสอน สอนให้นักเรียนซ้อมอย่างมีประสิทธิภาพ บุคลิกภาพของครูเปียโน การชมการแสดงดนตรี การสอบเกรด การแสดงคอนเสิร์ต การประกวดแข่งขัน การจัดสตูดิโอคลาสและการจัดกิจกรรมค่ายดนตรี
เอกสารอ้างอิง
ณรุทธ์ สุทธจิตต์. (2541). จิตวิทยาการสอนดนตรี (พิมพ์ครั้งที่1).กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สุรางค์ โค้วตระกูล. (2553). จิตวิทยาการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 9).กรุงเทพมหานคร: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
Baker, M. J. (1981). The student-teacher relationship: How important is it?.The American music teacher, Nov-Dec, 37-38.
Creswell, J. W. (2014). Research design: Qualitative, Quantitative, and Mixed Methods Approaches. Thousand Oaks, CA:
Sage.
Duke, R. A., Flowers, P. J., & Wolfe, D. E. (1997). Children who study piano with excellent teachers in the United States.
Bulletin of the council for research in music education 132: 51-84.
Dyal, E. I. C. (1991). An examination of factors which associate with a successful outcome in piano lessons. PhD dissertation,
Teacher college. Columbia University.
Hallam, S. (1998). The predictors of achievement and dropout in instrumental tution.
Psychology of music 26: 116-132.
Hilton, V. O. (1960). The problem of teenage dropout in private piano study.Thesis for the degree master of arts. The Ohio State
University.
Miles, B. M., Huberman, M. A. (1994). Qualitative data analysis. An expanded sourcebook (Second edition). Thousand Oaks,
CA: Sage.
Music teachers national association foundation. (1990). National survey of independent music teacher income and lesson fees.
Rockville. MD: Association Research, Inc.
Steinel, D. V. (1984). Data on music education: A national review of statistics describing education in music and the other arts.
Reston. VA.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

