Efficiency in Good Governance Management of Wat Phrom Rangsee, Samae Dam Subdistrict, Bang Khun Thian District, Bangkok ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการตามหลักธรรมาภิบาลของวัดพรหมรังษี แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร
Main Article Content
Abstract
The objectives of this quantitative research were to 1) study efficiency in good governance management of Wat Phrom Rangsee, Samae Dam Subdistrict, Bang Khun Thian District, Bangkok, 2) study individual factors affecting the efficiency in good governance management of Wat Phrom Rangsee, Samae Dam Subdistrict, Bang Khun Thian District, Bangkok, and 3) suggest guidelines for increasing the efficiency in good governance management of Wat Phrom Rangsee, Samae Dam Subdistrict, Bang Khun Thian District, Bangkok. Samples used in this research were 120 male and female residents in Samae Dam Subdistrict, Bang Khu Thian District, Bangkok. Research tool was a questionnaire. Data analysis was carried out by statistical packages to determine percentage (%), mean (), standard deviation (S.D.), and a hypothetical test by Independent Sample t-test and one-way ANOVA. The results of the research revealed that the efficiency in good governance management of Wat Phrom Rangsee, Samae Dam Subdistrict, Bang Khun Thian, District, Bangkok exhibited an overall high-level at = 4.13, S.D=0.74. On separate domains, it showed accountability at =4.23, S.D=0.82, efficiency at =4.21, S.D=0.66, rule of law at =4.14, S.D=0.64, participation at =4.10, S.D=0.27, morality at =4.07, S.D=0.87, and transparency at =4.01, S.D=0.72 By hypothetical tests, it was found that individual factors, such as sex, age, education, career, and income, affected indifferently the efficiency in good governance management of Wat Phrom Rangsee, Samae Dam Subdistrict, Bang Khun Thian, District,Bangkok with statistical significance at a level of 0.05.
Article Details
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
นครินทร์ แก้วโชติรุ่ง. (2556). รูปแบบและหลักการของการปกครองในพระไตรปิฏก. (ดุษฏีนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฏีบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระครูสาธิตวีรญาณ อยู่สุข. (2559). ธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการพันธกิจ. (ดุษฎีนิพนธ์รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต). ปทุมธานี: มหาวิทยาลัยปทุมธานี.
พระมหาฤทธิชัย ญาณิทฺธิโก (นามสมบัติ). (2559). การบริหารจัดการวัดตามหลักธรรมาภิบาล : กรณีศึกษาวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีปทุม.
พระมหาศรณขัย มหาปุณฺโญ (2556). การพัฒนาการบริหารกิจการคณะสงฆ์ของพระสังฆาธิการในยุคโลกาภิวัตน์. (วิทยานิพนธ์ปริญญาพุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระราชปัญญาภรณ์ (สิงห์คำ ชยวํโส). (2556). การคณะสงฆ์ภาค 6. กรุงเทพฯ: คณะสงฆ์ภาค 6.
พระวิมาน คมฺภีรปญฺโญ (ตรีกมล). (2555). การศึกษาวิเคราะห์ศีล 5 ในฐานะเป็นรากฐานของสันติภาพ. (วิทยานิพนธ์พุทธศาสตรมหาบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พระสราวุฒย์ปญฺญาวุฑฺโฒ (วิจิตรปัญญา). (2556). การปฏิรูประบบวรรณะสู่ระบบสังฆะในพระพุทธศาสนา. (สารนิพนธ์พุทธศาสตรดุษฎีบัณฑิต). พระนครศรีอยุธยา: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
พิเชษฐ์ ชัยประไพพงษ์. (2560). ปัจจัยที่ส่งผลให้เกิดความพึงพอใจและความจงรักภักดีต่อการใช้บริการรถยนต์เคลื่อนที่ให้บริการทางทะเบียนราษฎร์. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2548). การบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี. กรุงเทพฯ: ไอเดีย สแควร์.
สุพรรณี ปันผสม (2554). ปัจจัยที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานและความผูกพันต่อองค์กรของพนักงาน : กรณีศึกษา พนักงานธนาคารไทยพาณิชย์ในเขตจังหวัดอุตรดิตถ์ จังหวัดพิษณุโลกและจังหวัดพิจิตร. (การศึกษาค้นคว้าด้วยตนเองปริญญาบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.