การบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมของประชาชนในอำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา

ผู้แต่ง

  • พระต๋อง จิตฺตทนฺโต บรรจง
  • พระนรินทร์ เอมพันธ์ ผศ.ดร. มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาลัยสงฆ์ชัยภูมิ
  • ไพทูรย์ มาเมือง

คำสำคัญ:

ประชาชน, วัฒนธรรมทางการเมือง, การมีส่วนร่วมทางการเมือง

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ดังนี้ คือ 1. เพื่อศึกษาระดับการบูรณาการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมของประชาชนในอำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา
2. เพื่อเปรียบเทียบการบูรณาการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมของประชาชนในอำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา โดยจำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล และ 3. เพื่อนำเสนอการบูรณาการหลักพุทธธรรมเพื่อเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วมของประชาชนในอำเภอแก้งสนามนาง จังหวัดนครราชสีมา โดยการประยุกต์ตามหลักอิทธิบาทธรรม โดยมีระเบียบวิธีวิจัยเป็นการวิจัยแบบผสานวิธี การวิจัยเชิงคุณภาพ และการวิจัยเชิงปริมาณ เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานโดยการทดสอบค่าทีเทส ค่าเอฟเทส และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการพรรณนาความ

ผลการวิจัยพบว่า

  1. 1. ระดับการเสริมสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง โดยรวมอยู่ในระดับมาก (=3.89) จำแนกเป็นรายด้าน คือ ด้านตะหนักในผลกระทบของนโยบาย (=3.99) ด้านความสำนึกในหน้าที่ของพลเมือง (=3.89) ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง (=3.88) และด้านมีความสนใจต่อกิจกรรมทางการเมือง (=3.79) ตามลำดับ
  2. ผลการเปรียบเทียบ พบว่า ประชาชนที่มีเพศต่างกันมีความคิดเห็น ไม่แตกต่างกัน จึงปฏิเสธสมมติฐานการวิจัย ส่วนประชาชนที่มีอายุ การศึกษา อาชีพ และรายได้ต่างกันมีความคิดเห็น แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัย
  3. ผลการนำเสนอ พบว่า 1) ด้านการมีส่วนร่วมทางการเมืองสูง ประชาชนควรเสียสละและการสนับสนุนทางการเมือง 2) ด้านความสำนึกในหน้าที่ของพลเมือง ประชาชนควรแสดงไมตรีและความหวังดีต่อเพื่อนร่วมงาน 3) ด้านตะหนักในผลกระทบของนโยบาย ประชาชนควรมีจิตสาธารณะ และ 4) ด้านมีความสนใจต่อกิจกรรมทางการเมือง ประชาชนควรมีจิตสำนึกให้กับชุมชน สังคม ให้รับรู้ถึงสิทธิและหน้าที่ของตัวเอง

Downloads

Download data is not yet available.

References

บรรณานุกรม

กมล สมวิเชียร. ประชาธิปไตยกับสังคมไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๒. กรุงเทพมหานคร : สำนักพิมพ์ไทยวัฒนาพานิชจำกัด, ๒๕๒๐.

ณฐมน หมวกฉิม. “การตื่นตัวทางการเมืองของเยาวชนในระบอบประชาธิปไตยที่มีผลต่อการเลือกตั้งทั่วไปของไทย”. ดุษฎีนิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๔.

ประจวบ จันทร์หมื่น. “ความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมทางการเมืองกับบทบาทของประชาสังคมในระบบการเมืองท้องถิ่น กรณีศึกษาตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ จังหวัดศรีสะเกษ”. วิทยานิพนธ์รัฐประศาสนศาตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี, ๒๕๕๒.

ประชาชาติธุรกิจ, ระบบ “อุปถัมภ์” ในสังคมไทย, [ออนไลน์], แหล่งที่มา : https://www.prachachat.

net/columns/news-264642 [๒๕ กรกฎาคม ๒๕๖๕].

พระสุชาติ สุชาโต (สวน). “การมีส่วนร่วมทางการเมืองของบุคลากรเทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี ในการไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วไป พ.ศ. ๒๕๖๒”. วิทยานิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๔.

รัตนา สารักษ์ “การส่งเสริมวัฒนธรรมการเมืองของประชาชนใน อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง”. สารนิพนธ์รัฐศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐศาสตร์. บัณฑิตวิทยาลัย : มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, ๒๕๖๓.

สมบัติ ธำรงธัญวงศ์. การเมือง : แนวความคิดและการพัฒนา. พิมพ์ครั้งที่ ๑๗. กรุงเทพมหานคร : เสมาธรรม, ๒๕๕๑.

Silverman. D. (2000). Doing Qualitative Research: A Practical Handbook. London: Sange.

Yamane. Taro. (1967). Statistics: An Introductory Analysis. New York: Harpen and Row.

Downloads

เผยแพร่แล้ว

2024-10-08