ความตระหนักของประชาชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ศึกษากรณี ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร ความตระหนักของประชาชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ศึกษากรณี ตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความตระหนักและความแตกต่างของปัจจัยที่มีผลต่อความตระหนักของประชาชนท้องถิ่นในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ศึกษากรณีตำบลโคกขาม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสาคร โดยใช้วิธีการวิจัยเชิงปริมาณ ประชากรเป้าหมาย คือ ประชาชนท้องถิ่นที่เป็นหัวหน้าครัวเรือนหรือตัวแทนหัวหน้าครัวเรือน จำนวน 250 ครัวเรือน ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ แบบสอบถามวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์การผันแปรทางเดียว การทดสอบการแตกต่างระหว่างกลุ่ม สำหรับการวิจัยเชิงคุณภาพ ทำการศึกษาด้วยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก และนำเสนอข้อมูลโดยใช้วิธีการพรรณนาเชิงวิเคราะห์
ผลการศึกษาพบว่า ประชาชนส่วนใหญ่มีความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนในระดับสูง ปัจจัยที่มีผลต่อความตระหนักในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน ได้แก่ อาชีพ (0.001) ประสบการณ์การได้รับผลกระทบจากการกัดเซาะชายฝั่ง (0.01) เพศและความรู้เกี่ยวกับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน (0.05) ปัญหาและอุปสรรคที่พบจากการศึกษาคือ ประชาชนมีการรับรู้ข้อมูลข่าวสารน้อย ตลอดจนให้ความสำคัญในการประกอบอาชีพมากกว่า ทำให้ประชาชนไม่ค่อยมีส่วนร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน โดยมีข้อเสนอแนะจากงานวิจัยว่า ควรมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารความสำคัญ และความรู้ที่ถูกต้องของทรัพยากรป่าชายเลนให้แก่ประชาชนท้องถิ่นให้มากกว่าเดิม รวมทั้งภาครัฐ ภาคท้องถิ่นควรให้ความสำคัญในการส่งเสริมและสนับสนุนให้ประชาชนท้องถิ่นเข้าร่วมกิจกรรมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนมากขึ้น สำหรับข้อเสนอแนะในการเสริมสร้างความตระหนักของประชาชนท้องถิ่น ควรมีการปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีให้แก่ประชาชนท้องถิ่นเพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรป่าชายเลนในท้องถิ่น พร้อมทั้งแสดงให้เห็นถึงข้อดีหรือประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนอย่างจริงจังเพื่อเป็นการกระตุ้นให้ชาวบ้านเกิดความตระหนักต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลน
Article Details
- วารสารสังคมศาสตร์บูรณาการ มหาวิทยาลัยมหิดล อนุญาตให้สามารถนำไฟล์บทความไปใช้ประโยชน์และเผยแพร่ต่อได้ โดยอยู่ภายใต้เงื่อนไขสัญญาอนุญาต CC Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) โดยต้องแสดงที่มา/การอ้างอิงจากวารสาร – ไม่ใช้เพื่อการค้า – ห้ามแก้ไขดัดแปลงเนื้อหา
- ข้อความที่ปรากฏในบทความในวารสารฯ เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแต่ละท่าน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารฯ (ซึ่งหมายรวมถึง บรรณาธิการ ผู้ทรงคุณวุฒิในกองบรรณาธิการ หรือ บรรณาธิการรับเชิญ) แต่อย่างใด ความรับผิดชอบองค์ประกอบทั้งหมดของบทความแต่ละเรื่องเป็นของผู้เขียนแต่ละท่าน หากมีความผิดพลาดใด ๆ ผู้เขียนแต่ละท่านจะรับผิดชอบบทความของตนเอง ตลอดจนความรับผิดชอบด้านเนื้อหาและการตรวจร่างบทความเป็นของผู้เขียน ไม่เกี่ยวข้องกับกองบรรณาธิการวารสารฯ
- กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการตัดทอน/ปรับแก้ถ้อยคำบางประการเพื่อความเหมาะสม
References
ทวีสินธิ์ สิทธิกร. (2535). บูรณาการสวนสุขศึกษา.กรุงเทพมหานคร: อักษราพิพัฒน์.
บุญธรรม กิจปรีดาบริสุทธิ์.(2540). ระเบียบวิธีการวิจัยทางสังคมศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ 7. กรุงเทพมหานคร: โรงพิมพ์และปกเจริญผล.
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร. (2555). รายงานสาธารณะ “สถานการณ์ป่าไม้ไทย 2555”. (online). Available: http://www.seub.or.th/index.php?option=com_content&view=article&id= 927:seubnews &catid /.
รัชฎาภรณ์ เจริญพร้อม. (2550). ความตระหนักของประชาชนเกี่ยวกับผลกระทบของฝุ่งละอองต่อระบบนิเวศในเขตอุตสาหกรรมเหมืองหินปูนและโรงโม่ บด และย่อยหิน กรณีศึกษา ตำบลหน้าพระลาน อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี. วิทยานิพนธ์ปริญญาสังคมศาสตร์มหาบัณฑิต สาขาวิชาสิ่งแวดล้อม บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล.
สิน พันธุ์พินิจ. (2549). เทคนิคการวิจัยทางสังคมศาสตร์.พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพมหานคร: วิทยพัฒน์.
Werkmeister, W. H.,. (1971). AN INTRODUCTION TO CRITICAL THINKING. LincolnNebraska: John Publishing Company.