ความคิดสร้างสรรค์ที่หล่นหายไปของผู้เรียนกับการศึกษาในศตวรรษที่ 21
Main Article Content
บทคัดย่อ
ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งมนุษย์มีติดตัวมาตั้งแต่เกิดตามความเชื่อและแนวคิดของนักจิตวิทยาในกลุ่มทฤษฎีความคิดสร้างสรรค์เชิงมนุษยวิทยานิยม แต่ความคิดสร้างสรรค์จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับประสบการณ์ที่ผ่านมาของแต่ละคนทั้งการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อม การเรียนรู้ สังคมและวัฒนธรรมต่างเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของเราทั้งสิ้น ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ในปัจจุบันเกิดจากความฉลาด ความสามารถในการคิดสร้างสรรค์สิ่งประดิษฐ์เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการดำเนินชีวิตได้อย่างมีคุณภาพมากขึ้น เช่น การสร้างยานพาหนะต่าง ๆ เพื่อใช้ในการเดินทางได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว การใช้เครื่องจักรกลในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มจำนวนผลผลิตและลดค่าใช้จ่าย การพัฒนาอุปกรณ์ในการติดต่อสื่อสาร เป็นต้น ต้องยอมรับว่าแนวคิดใหม่ ๆ และสิ่งประดิษฐ์หรือนวัตกรรมที่เกิดขึ้นนี้ต่างมีรากฐานมาจากการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ทั้งสิ้น ดังนั้นประเทศใดก็ตาม หากประชากรในประเทศมีทักษะความคิดสร้างสรรค์จำนวนมากย่อมเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาและสร้างความเจริญก้าวหน้าให้แก่ประเทศนั้นมากขึ้น โดยเฉพาะในปัจจุบันเราได้เข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ยุคแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม เมื่อเครื่องจักรและหุ่นยนต์ถูกนำมาใช้แทนแรงงานคนมากขึ้น เด็กและเยาวชนในยุคนี้ควรได้รับการพัฒนาและส่งเสริมทักษะอื่นที่นอกเหนือจากความรู้ทางวิชาการ เพื่อสามารถดำรงชีวิตได้ในสังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและคาดเดาไม่ได้ อีกทั้งมีทักษะการเรียนรู้อย่างหลากหลายและเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
รูปแบบการจัดการศึกษาและการจัดการเรียนการสอนของไทยในทุกวันนี้ยังเป็นการสอนแบบดั้งเดิม มีแนวคิดและความเชื่อที่ได้รับการปลูกฝังมาคือ เน้นเนื้อหาวิชาการให้หนัก เน้นการสอบให้ได้คะแนนดี เน้นการแข่งขันตัดสินผ่านไม่ผ่าน รวมถึงหลักสูตรการเรียนที่ถูกกำหนดมาจากส่วนกลาง ไม่ได้เกิดจากความต้องการของผู้เรียน ชุมชนและสังคม รวมถึงผลจากการเลี้ยงดูของครอบครัวและสภาพแวดล้อม จึงส่งผลให้ผู้เรียนเกิดความกลัวที่จะตอบผิด ไม่กล้าแสดงออก ไม่กล้าคิด ไม่กล้าพูดและไม่กล้าทำตามสิ่งที่ตัวเองคิด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กหายไปเรื่อย ๆ
ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่สอนและพัฒนาได้ เพราะ ความคิดสร้างสรรค์เกิดจากประสบการณ์ของแต่ละคน ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อระบบการศึกษาไทยรวมถึงครูผู้สอนและผู้ปกครองในยุคนี้ที่จะเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาและส่งเสริมทักษะความคิดสร้างสรรค์กับผู้เรียนอย่างจริงจังเพื่อให้ผู้เรียนนำไปปรับใช้ในการทำงานและดำเนินชีวิตในศตวรรษที่ 21 ได้ต่อไปในอนาคต
Article Details

This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
References
กรมวิชาการ,กระทรวงศึกษาธิการ. (2535). ความคิดสร้างสรรค์ หลักการ ทฤษฎี การเรียนการสอนการวัดผลประเมินผล. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ครุสภา.
ชลิดา หนูหล้า. (2563). ด้วยความระลึกถึงเคน โรบินสัน ผู้เชื่อมั่นในสีสันแห่งการเรียนรู้. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://www.the101.world/sir-kenneth-robinson/
ธารทิพย์ ขัวนา และ ขวัญชัย ขัวนา. (2561). การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เชิงผลิตภาพทางการศึกษา : สู่ยุค การศึกษาไทยแลนด์ 4.0. วารสารสถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม ปีที่ 5 ฉบับที่ 2 เดือน กรกฎาคม-ธันวาคม พ.ศ. 2561 แหล่งที่มา hile:///C:/Users/DELL/Downloads/211153-Article%20Text-665221-1-10-20190824.pdf
ธเนศ รัตนกุล ธเนศ รัตนกุล. (2562). อยากให้เด็กคิดอย่างสร้างสรรค์? ผู้ใหญ่ต้องทำให้เห็นก่อน. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://thematter.co/science-tech/create-creativity-for-kids/77730
ปิยวุฒิ ปัญญาพี่. (2559). การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ รหัสวิชา 3400-1000. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2564. แหล่งที่มา http://www.phuketvc.ac.th/download/61/Study2.pdf
ปิยะพร ศักดิ์เกษม. (2562). จินตนาการสำคัญกว่าความรู้. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://anowl.co/anowlrak/anowl_love14/
วีรศักดิ์ จันทร์สุข. (2564). ความคิดสร้างสรรค์. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2564. แหล่งที่มา http://www.krurock.com/T33101/TechnoC/TechnoC01_04.php
ศุภชัย บุญเสริม. (2561). ความสัมพันธ์ระหว่างสภาพแวดล้อมในชั้นเรียนต่อความคิดสร้างสรรค์และความพึงพอใจในชั้นเรียนวิทยาศาสตร์ของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26. วิทยานิพนธ์ครุศาสตร์มหาบัณฑิต. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยราชภัฎมหาสารคาม.
สรวงมณฑ์ สิทธิสมาน. (2563). ความคิดสร้างสรรค์ของเด็กไทยที่หายไป. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ
กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://www.altv.tv/content/thaipbs-kids/5f6188f917d8e5bbee2401a1https://kasetsartjournal.ku.ac.th/kuj_files/2010/A1008311624350903.pdf
สุทธิวรรณ ตันติรจนาวงศ์. (2560). ทิศทางการจัดการศึกษาในศตวรรษที่ 21. [Abstract]. Journal of Silpakorn University Vol. 10 No. 2 (2017): ฉบับภาษาไทย มนุษยศาสตร์ สังคมศาสตร์ และศิลปะ (พฤษภาคม – สิงหาคม 2560). สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://he02.tci-thaijo.org/index.php/Veridian-E-Journal/article/view/109763
สุปราณี สนธิรัตน์. (2523). การปลูกฝังความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ให้กับยุวกสิกร. วารสารวิทยาสารเกษตรศาสตร์ สาขาสังคมศาสตร์ ปีที่ 1 ฉบับที่ 1-2 ม.ค.-ธ.ค. 2523. สืบค้นเมื่อ 8 กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://kasetsartjournal.ku.ac.th/kuj_files/2010/A1008311624350903.pdf
สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน. (2560). หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ การคิดเชิงสร้างสรรค์. [ออนไลน์]. สืบค้นเมื่อ 1 กันยายน 2564. แหล่งที่มา https://www.ocsc.go.th/sites/default/files/document/ocsc-2017-eb13.pdf
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2561). ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี พ.ศ. 2561 – 2580. สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2564. แหล่งที่มา http://nscr.nesdc.go.th
. (2564). แผนปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) (ฉบับประกาศราชกิจจานุเบกษา). สืบค้นเมื่อ 7 กันยายน 2564. แหล่งที่มา http://nscr.nesdc.go.th
อารี รังสินันท์. (2527). ความคิดสร้างสรรค์. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2564. แหล่งที่มา http://www.nana-bio.com/Research/image%20research/research%20work/ceative%20thinking/creative%20thinking04.html
Baron ,& May. (1960). Psychology the essential science. Boston: Renslaer Polyte.
Dalton, M, D G. Hoyle; & M. W. Watts. (2000). Human Relations. 2nd ed. Ohio: SouthWestern Enucational Puplishing.
Guilford, J.P. (1950). Creativity. American Psychologist, 5 (9), pp. 444–454.
. (1967). Factor that aid and hinder creative. (3 rd ed). New York : McGraw – Hill.
Smith, G.I.W. (1987). “A New Creativity Test”, Journal of Creativve Behavior. 21 (1) : 7-14 ; First Quarter.
Torrance, E.P. (1974). Torrance tests of creative thinking. Bensenville, IL: Scholastic Testing Service, Inc.
Osborn, A. F. (1963). Creative imagination (3rd ed.). New York: Charles Scridners Sons.