การสร้างกลไกความร่วมมือเพื่อสืบสานและคุ้มครองภูมิปัญญาที่เป็นมรดกร่วมทางสังคมและวัฒนธรรม ของอาเซียนภาคพื้น : ไทย ลาว และกัมพูชา
คำสำคัญ:
กลไกความร่วมมือ, สืบสาน, คุ้มครอง, ภูมิปัญญา, มรดกร่วมบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้เป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัย เรื่อง การสร้างกลไกความร่วมมือเพื่อสืบสานและคุ้มครองภูมิปัญญาที่เป็นมรดกร่วมทางสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียนภาคพื้น : ไทย ลาว และกัมพูชา โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างกลไกความร่วมมือเพื่อสืบสานและคุ้มครองภูมิปัญญาที่เป็นมรดกร่วมทางสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียนภาคพื้น : ไทย ลาว และกัมพูชา ซึ่งเป็นงานวิจัยเชิงคุณภาพ แหล่งข้อมูลการวิจัยประกอบด้วย (1) เอกสารและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง แนวคิด ทฤษฎี และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง และ (2) ประชากรเป้าหมายซึ่งเป็นผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่ พระสงฆ์ นักวิชาการ ผู้รู้ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ปฏิบัติการ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านสังคมและวัฒนธรรม ภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคประชาสังคม และสถาบันการศึกษาทั้ง 3 ประเทศ ซึ่งคัดเลือกโดยวิธีการสืบเสาะหา ด้วยวิธีการบอกต่อ จำนวน 21 รูป/คน ใช้วิธีการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการศึกษาพบว่า กลไกความร่วมมือเพื่อสืบสานและคุ้มครองภูมิปัญญาที่เป็นมรดกร่วมทางสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียนภาคพื้น : ไทย ลาว และกัมพูชา ประกอบด้วย 6 มิติ ดังนี้ (1) มิตินโยบาย ได้แก่ กำหนดนโยบายอย่างชัดเจนและสามารถดำเนินการได้จริง และกำหนดนโยบายให้เป็นวาระสำคัญแห่งองค์กร (2) มิติขององค์กรภาครัฐ ได้แก่ การสนับสนุนให้เกิดการทำงานเชิงรุก การส่งเสริมหรือผลักดันนโยบาย และการรณรงค์ในการสืบสาน คุ้มครองภูมิปัญญาที่เป็นมรดกร่วมทางสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (3) มิติขององค์กรภาคการศึกษา ได้แก่ การสร้างความรู้ความเข้าใจในคุณค่าของภูมิปัญญาที่เป็นมรดกด้านสังคมและวัฒนธรรมของอาเซียน การส่งเสริมการจัดศูนย์การเรียนรู้หรือศูนย์แสดงงานด้านสังคมและวัฒนธรรม การส่งเสริมให้คนในท้องถิ่นรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง และการประสานความร่วมมือกับภาคีอื่นๆ (4) มิติขององค์กรภาคประชาสังคม ได้แก่ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน และการทำหน้าที่พิทักษ์ รักษาและเฝ้าระวัง (5) มิติขององค์กรภาคประชาชน ได้แก่ การสร้างความเป็นตัวแทนหรืออาสาสมัคร การสร้างทายาททางวัฒนธรรม และการถ่ายทอดทางวัฒนธรรม และ (6) มิติขององค์กรศาสนาหรือพระสงฆ์ ได้แก่ การปลูกจิตวิญญาณให้เข้าถึงศิลปวัฒนธรรม การอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม การให้ความรู้เพื่อสร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม และการเป็นผู้นำในการดูแลรักษาแหล่งโบราณคดี
เอกสารอ้างอิง
ชื่น ศรีสวัสดิ์. การค้นหาและพัฒนากลไกความร่วมมือ เพื่อการอนุรักษ์เสริมสร้างงานด้านสังคม วัฒนธรรมของ ประเทศอาเซียนกล่มภาคพื้นดิน ในเขตพื้นที่อีสานตอนล่างของประเทศไทย ลาว ใต้ ของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตย ประชาชนลาว และภาคเหนือของกัมพูชา. กรุงเทพฯ : ระบบการบริหารจัดการงานวิจัยแห่งชาติ, 2559.
นิยพรรณ วรรณศิริ. มานุษยวิทยาสังคมและวัฒนธรรม. พิมพ์ครั้งที่ 1 กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์, 2540.
นัทธี เพชรบุรี และบุญสมหญิง พลเมืองดี. “กระบวนการมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูอนุรักษ์และสืบทอดประเพณีอาบน้ำคืนเพ็ญชุมสามเรือน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา”. วารสารวิจัยเพื่อการพัฒนา เชิงพื้นที่. 9, 5 (กันยายน-ตุลาคม2560) : 417.
พระครูวินัยธรจักรี ศรีจารุเมธีญาณ และคณะ. “บทบาท พระสงฆ์ไทยในสังคมยุคโลกาภิวัตน์”. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร. 4, 1. (มกราคม-เมษายน 2559) : 282-283.
พระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ. พระพุทธศาสนาในลาว (พิมพ์ครั้งที่ 2). พระนครศรีอยุธยา: สถาบันวิจัยพุทธศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2555.
พระสุเธีย สุวณฺณเถโร (ยนต์). การศึกษาของคณะสงฆ์ในราชอาณาจักรกัมพูชา. วิทยานิพนธ์หลักสูตรปริญญาพุทธศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย, 2553 : 13-14.
วีระศักดิ์ เครือเทพ. เครือข่าย : นวัตกรรมการทำงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น. กรุงเทพฯ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, 2550.
สัญญา เคณาภูมิ. “กรอบแนวคิดการศึกษานโยบายสาธารณะ”. วารสารวิชาการและวิจัยสังคมศาสตร์. 11, 33 (กันยายน-ธันวาคม 2559) : 1.
สุดา ทัพสุวรรณ. วิชา EA 531 หน้าทีผู้นําในการบริหารการศึกษา. กรุงเทพฯ: ภาควิชาบริหารการศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ, 2545.
อณฎณ เชื้อไทย. AEC ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. กรุงเทพฯ : แสงดาว, 2555.
เอนก เหล่าธรรมทัศน์. “ส่วนรวมที่มิใช่รัฐ : ความหมายของประชาสังคม”.วารสารธรรมศาสตร์. 24, 2 (พฤษภาคม-สิงหาคม 2541) : 124-151.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ