การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขต พื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3
คำสำคัญ:
ระดับการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ, การบริหารสถานศึกษา, ความเป็นเลิศ, ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาระดับการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เปรียบเทียบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จำแนกตามตำแหน่ง ประสบการณ์ทำงานและขนาดของสถานศึกษา และ 3) ศึกษาแนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 การดำเนินการวิจัยมี 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาระดับการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ตัวอย่างในการวิจัยได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครู จำนวน 341 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งชั้นภูมิ เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีและการทดสอบค่าเอฟ ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาแนวทางการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 10 คน และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ด้วยเทคนิควิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
- ระดับการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการนำองค์กร มีระดับความคิดเห็นมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านผลลัพธ์ ด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ด้านบุคลากร ด้านการจัดการความรู้ ด้านผู้เรียนและด้านการปฏิบัติการ ตามลำดับ
- การเปรียบเทียบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 จำแนกตามตำแหน่ง จำแนกตามประสบการณ์ทำงานและจำแนกตามขนาดของสถานศึกษา พบว่า โดยรวมและรายด้านมีความแตกต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
- แนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 3 ในด้านการนำองค์กร ด้านการวางแผนเชิงกลยุทธ์ ด้านผู้เรียน ด้านการจัดการความรู้ ด้านบุคลากร ด้านการปฏิบัติการและด้านผลลัพธ์ คือ 1) ควรวางแผนกำหนดแนวทางในการปฏิบัติงานของสถานศึกษา 2) ควรแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินความพึงพอใจของผู้เรียน 3) ควรเปิดโอกาสให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการจัดทำแผนเชิงกลยุทธ์และแผนปฏิบัติการ 4) ควรรวบรวมข้อมูลสารสนเทศให้ถูกต้องชัดเจนและเข้าถึงได้สะดวก
5) ควรส่งเสริมให้ครูปฏิบัติหน้าที่ตามสมรรถนะที่สอดคล้องกับพันธกิจและแผนปฏิบัติการ 6) ควรจัดทำเกณฑ์และขั้นตอนในการประเมินผลการปฏิบัติงานให้มีความโปร่งใสและยุติธรรม 7) ควรกำหนดตัวชี้วัดในการประเมินผลการดำเนินงานตามแผนที่กำหนดอย่างเป็นระบบ
เอกสารอ้างอิง
กฤษณา ศรีบุญเพ็ง. การบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ เครือข่ายกรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง, 2565.
กิตติพันธุ์ ปวงคำ. การวางแผนของโรงเรียนขยายโอกาสทางการศึกษาในเขตพื้นที่การศึกษาแม่ฮ่องสอน เขต 2. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 2563.
จิตราภรณ์ สามไชย. แนวทางการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนในจังหวัดกำแพงเพชร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 41. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์, 2561.
ณัฐรฏา พวงธรรม. การมีส่วนร่วมของครูในการบริหารโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี, 2553.
พุทธิภา เหล็กคงสันเทียะ. รูปแบบการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศ. วิทยานิพนธ์การบริหารการศึกษาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา, 2564.
รัตติยา วงศ์หิรัญตระกูล. แนวทางการพัฒนาการบริหารสถานศึกษาสู่ความเป็นเลิศของโรงเรียนบ้านโป่งแดง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตาก เขต 1. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร, 2558.
ศานิตย์ เชยชุ่ม. แนวทางการบริหารงานเพื่อความเป็นเลิศของเอกชน. วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตมหาวิทยาลัยศิลปากร, 2563.
สุรัสวดี ขุนคงเสถียร. การศึกษาความคิดเห็นของครูต่อการบริหารโรงเรียนสาธิต “พิบูลบำเพ็ญ” มหาวิทยาลัยบูรพา สู่ความเป็นเลิศ. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิยาลัยบูรพา, 2562.
สุริยา ห้าวหาญ. รูปแบบการบริหารสู่ความเป็นเลิศของสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 2564.
Krejcie, Robert V. and M. Morgan. “Determining sample size for researchactivities,” Educational and Psychological Measurement. 30, 6 (October 1970): 607-610.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ