การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหา และภาษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
คำสำคัญ:
ทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ, การเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษาบทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและเปรียบเทียบทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษาสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 และ 2) ศึกษาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษาตามเกณฑ์ 80/80 ตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี ที่เรียนในรายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ ชุดกิจกรรมการอ่านภาษาอังกฤษ 6 ชุด และแบบทดสอบทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ที่มีค่าดัชนีความสอดคล้อง .86 ค่าความยากตั้งแต่ .43-.73 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ .27-.60 และค่าความเชื่อมั่น .89 สถิติที่ใช้ ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล และการทดสอบค่าที
ผลการวิจัยพบว่า
- นักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีทักษะการอ่านภาษาอังกฤษหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 - ชุดกิจกรรมการอ่านภาษาอังกฤษ มีประสิทธิภาพเท่ากับ 88.50/83.78 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ที่ตั้งไว้
เอกสารอ้างอิง
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน, สำนักงาน. แนวดำเนินงานของคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษาและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: คุรุสภา, 2551.
ณิชาภัทร ฤทธิ์ละคร. การวิจัย เรื่องการพัฒนาความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้วิธีการสอนตามแนวคิดการเรียนรู้แบบบูรณาการเนื้อหาและภาษา (CLIL). วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต, 2563.
บุศรา โขมพัตร. “ผลของการจัดการเรียนรู้แบบใช้ทีมเป็นฐานที่มีต่อความสามารถในการอ่านเพื่อความเข้าใจภาษาอังกฤษและเจตคติต่อการอ่านภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4,” วารสารวิชาการศึกษาศาสตร์ ศรีนครินทรวิโรฒ. 22, 2 (กรกฎาคม-ธันวาคม 2564): 44-45.
พระสิงห์ ทามัง. การประยุกต์ใช้เนื้อหาและภาษาแบบบูรณาการแนวทางการเรียนรู้ (CLIL) สำหรับการเรียนรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนโรงเรียนมัธยมศึกษาภูฏาน. วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต, 2562.
โรงเรียนพิบูลมังสาหาร. รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา (ฉบับบสมบูรณ์ ปี 2564). อุบลราชธานี: โรงเรียนพิบูลมังสาหาร, 2564.
ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, สถาบัน. การแถลงข่าวผลการประเมิน PISA 2022. (ออนไลน์) 2566 (อ้างเมื่อ 6 ธันวาคม 2566). จาก https://pisathailand.ipst.ac.th/news-21
ศึกษาธิการ, กระทรวง. แนวทางการพัฒนาและประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียนตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุม สหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย, 2554.
Ball, P. Does CLIL work?. In D. Hill, and P. Alan (Eds.), The best of both worlds ?: International perspectives on CLIL Norwich: Norwich Institute for Language Education, 2009.
Coyle, P. Hood and D. Marsh. CLIL: content and language integrated learning. Cambridge: Cambridge university press, 2010.
Garipova, N., and S. N. Román. “Promoting reading skills in CLIL,” Pulso Journal. 39, 2 (June 2016): 113-124.
González, A.V. The Impact of Adopting a CLIL Approach on EFL Learners Reading Skills in a Catalonian. Spain: Central University of Catalonia, 2016.
Hamidavi, N., M. S. Amiz and B. Gorjain, “The Effect of CLIL Method on Teaching Reading Comprehension to Junior High School Students,” Bulletin of the Royal Society of Sciences of Liège. 85, 2016 (February 2016): 1642-1652.
Skeet, J. Reflections on CLIL. (online) 13 December 2011 (cited 13 December 2011). Available from: https://clilreflections.blogspot.com/2011/12/8-cs-of-clil.html
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 วารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความทุกเรื่องได้รับการตรวจความถูกต้องทางวิชาการโดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกอย่างน้อย 2 คน ความคิดเห็นในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี เป็นความคิดเห็นของผู้เขียนมิใช่ความคิดเห็นของผู้จัดทำ จึงมิใช่ ความรับผิดชอบของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี และบทความในวารสารบัณฑิตวิทยาลัย พิชญทรรศน์ มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี สงวนสิทธิ์ตามกฎหมายไทย การจะนำไปเผยแพร่ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากกองบรรณาธิการ