การพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองด้านนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน
คำสำคัญ:
รูปแบบการจัดการตนเอง, นวัตกรรมสุขภาพ, ความเข้มแข็งของชุมชนบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานการจัดการตนเองด้านนวัตกรรมสุขภาพ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) และปัจจัยหรือเงื่อนไขความสำเร็จของการจัดการตนเองด้านนวัตกรรมสุขภาพ ตลอดจน การพัฒนารูปแบบการจัดการตนเองด้านนวัตกรรมสุขภาพเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน ซึ่งใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสาน (Mixed Methodology) เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) โดยเป็นการวิจัยในลักษณะของพหุเทศะกรณี (Multisite Multi-case)
ผลการวิจัยพบว่า ข้อมูลพื้นฐานการจัดการตนเองด้านนวัตกรรมสุขภาพ สาเหตุการเกิดขึ้นของนวัตกรรมสุขภาพส่วนใหญ่เกิดจาก การที่แกนนำชุมชนหรือปราชญ์ชาวบ้านนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาแก้ไขปัญหาสุขภาพ และความต้องการของชุมชนเพื่อแก้ไขปัญหาด้านสุขภาพของชุมชนโดยมีภาคีเครือข่ายในการจัดการคือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ร่วมกับองค์กรบริการด้านสุขภาพ และทุนทางสังคม มีการบริหารในรูปของคณะกรรมการ มีกฎระเบียบ มาตรการทางสังคมที่ใช้เป็นแนวปฏิบัติ สำหรับวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ มีความเป็นเลิศใน 2 ทิศทาง ได้แก่ ด้านนวัตกรรมกระบวนการจัดการตนเอง และด้านนวัตกรรมผลผลิตในการจัดการตนเอง ส่วนปัจจัยหรือเงื่อนไขความสำเร็จมี 10 ด้านคือ 1.ด้านนโยบายการบริหารงานของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 2.ด้านการมีส่วนร่วม 3.ด้านการมีศักยภาพทุนทางสังคมของชุมชน 4.ด้านการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ 5. ด้านการใช้ประโยชน์ของระบบข้อมูล 6.ด้านการหนุนเสริมของภาคีเครือข่าย 7.ด้านระบบความสัมพันธ์แบบเครือญาติในชุมชน 8.ด้านการสร้างเครื่องมือในการจัดการตนเองของชุมชน 9.ด้านการพัฒนาสู่นโยบายสาธารณะ 10.ด้านภาวะผู้นำกลุ่ม ส่วนรูปแบบการจัดการตนเองด้านนวัตกรรมสุขภาพมี 4 ขั้นตอน คือ1) การค้นหาและพัฒนาศักยภาพตนเอง 2) การสร้างพลังเครือข่ายสังคม 3)การขับเคลื่อนในชุมชน 4)การบูรณาการเพื่อความเข้มแข็งโดยอาจเรียกรูปแบบนี้ว่า “ 3SI SELF-MANAGEMENT MODEL” ที่ผ่านการประเมินโดยผู้ทรงคุณวุฒิและเวทีประชาคม
References
ธีระภัทรา เอกผาชัยสวัสดิ์. (2553). การศึกษาและพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างองค์กรชุมชนเข้มแข็ง กรณีศึกษาตำบลวังชมพู อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบูรณ์ (รายงานผลการวิจัย). เพชรบูรณ์: มหาวิทยาลัยราชภัฎเพชรบูรณ์.
นิโลบล นิ่มกิ่งรัตน์ ประสิทธิ์ ม้าลำพอง สมบูรณ์ นิ่มกิ่งรัตน์ (2553). โครงการสร้างเสริมสุขภาพของสำนัก 6 สสส.ปี 2551-2552. กรุงเทพฯ: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.).
ปรีชา โอฬารอร่ามกุล. (2553). กระบวนการยอมรับนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ข้าวเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต). ขอนแก่น: มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
มยุรี ผิวสุวรรณ ดารณี สุวพันธ์ วิไลภรณ์ โคตรบึงแก Karen Heinicke-Motsch Barney McGlade ปิยมาศ อุมัษเฐียร (2556). BCR Guidelines ขององค์การอนามัยโลก ฉบับภาษาไทย (Community Based Rehabilitation). กรุงเทพฯ: พรีเมียม เอ็กซ์เพรส.
สาทิต จิตนาวา. (2551). การศึกษาขั้นตอนการก่อเกิดนโยบายสาธารณะ: ศึกษากรณี พระราชบัญญัติสุขภาพแห่งชาติ (การค้นคว้าอิสระปริญญามหาบัณฑิต). ชลบุรี : มหาวิทยาลัยบูรพา.
สาวิตรี สอาดเทียน. (2551). กระบวนการทุนทางสังคมในการทำเกษตรกรรมยั่งยืนที่มีผลต่อ
การฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมของชุมชน : กรณีศึกษา ชุมชนวังตะกู ตำบลวังตะกู อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร (วิทยานิพนธ์ปริญญามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
สุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ. (2552ก). เอกสารวิชาการงานมหกรรมสุขภาพชุมชน 2552 พลวัต
การสาธารณสุขมูลฐาน- สามทศวรรษแห่งการเปลี่ยนแปลง: มุมมองจากประชาคมโลก.
(ห้อง Grand Diamond อิมแพคเมืองทองธานี, 20 กุมภาพันธ์).
สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ (สช.). (2557). สุขภาพคนไทย 2557:ชุมชนท้องถิ่นจัดการตนเอง...สู่การปฏิรูปประเทศจากฐานราก. นครปฐม: สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.
อนันต์ มาลารัตน์. (2551). การพัฒนารูปแบบความสัมพันธ์เชิงสาเหตุของปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการจัดการเครือข่ายชุมชนด้านสุขภาพ (วิทยานิพนธ์ปริญญาดุษฏีบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
Keeves, J. P. (1988). Educational research, and methodology, and measurement : An International handbook. Oxford: Pergamon Press.
Chen, H.-L. (2006). A study of the relation between community empowerment, social capital, and sense of community. (Master,s thesis ,National Sun Yat-Sen University).