การบริหารการศึกษาระบบทวิภาคีโรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ
Article Sidebar
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี
โรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ ๒) เพื่อเปรียบเทียบระดับความคิดเห็นต่อ
การบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี โรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ ๓) เพื่อ
เสนอแนวทางการปรับปรุงแก้ไขสภาพปัญหาการบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี โรงเรียนป้อม
นาคราชสวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ เป็นวิธีวิจัยแบบผสานวิธี มีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้
เป็นแบบสอบถามกลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้บริหาร ครูผู้สอนในสถานศึกษา ครูฝึกในสถานประกอบการและ
นักเรียนโรงเรียนป้อมนาคราชสวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ มีประชากรทั้งหมด ๓๑๘ คน ได้
ขนาดกลุ่มตัวอย่าง ๑๗๕ คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ข้อมูลที่
เก็บรวบรวมได้จากกลุ่มตัวอย่าง ผู้วิจัยได้น าแบบสอบถามทั้งหมดมาวิเคราะห์และประมวลผล โดยน า
ข้อมูลไปวิเคราะห์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ ใช้โปรแกรมส าเร็จรูปทางสถิติเพื่อการวิจัยทางสังคมศาสตร์
โดยใช้สถิติดังนี้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน โดยวิธีการทดสอบค่า
เอฟ มีการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และเปรียบเทียบความแตกต่างรายคู่ด้วยวิธีผลต่าง
นัยส าคัญน้อยที่สุด โดยวิธีของ Sceffe
ผลการวิจัย พบว่า
๑. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลระดับความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอนในสถานศึกษาครูฝึกใน
สถานประกอบการและนักเรียนมีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี โรงเรียนป้อม
นาคราชสวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน
ทุกด้าน อยู่ในระดับมาก ทั้ง ๓ ด้าน คือ ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการวัดและประเมินผล
ด้านหลักสูตร ตามล าดับ ด้านการจัดการเรียนการสอน โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ด้านการวัดและ
ประเมินผล โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก ด้านหลักสูตร โดยภาพรวม อยู่ในระดับมาก
๒. ผลการวิเคราะห์เปรียบเทียบระดับความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูผู้สอนในสถานศึกษาครูฝึก
ในสถานประกอบการและนักเรียนที่มีต่อการบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี โรงเรียนป้อมนาคราช
สวาทยานนท์ จังหวัดสมุทรปราการ จ าแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล คือ มีอายุ ประสบการณ์ในการ
ท างาน เหตุผลในการเข้าศึกษาต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี จังหวัด
สมุทรปราการ แตกต่างกัน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ ๐.๐๕ จึงยอมรับสมมติฐานการวิจัยและ
มีเพศ ระดับการศึกษา ต าแหน่ง ค่าตอบแทนจากสถานประกอบการต่างกัน มีความคิดเห็นต่อการ
บริหารการศึกษาระบบทวิภาคี จังหวัดสมุทรปราการ ไม่แตกต่างกัน จึงปฎิเสธสมมติฐานการวิจัย
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร
เอกสารอ้างอิง
ป้อมนาคราชสวาทยานนท์ (พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๒). สมุทรปราการ: โรงเรียนป้อม
นาคราชสวาทยานนท์.
ถนอม มงคลชื่น. (๒๕๔๓). การศึกษาปัญหาการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีกรณีศึกษา
วิทยาลัยเทคนิคพิษณุโลก. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการบริหาร
การศึกษา. พิษณุโลก : สถาบันราชภัฎพิบูลสงคราม.
ธีรวุฒิ เอกะกุล. (๒๕๔๓). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตรและสังคมศาสตร. อุบลราชธานี:
สถาบันราชภัฎอุบลราชธานี.
วสันต์ ท ากล้า. (๒๕๔๙). การบริหารการศึกษาระบบทวิภาคี สาขาวิชาเทคนิคอุตสาหกรรม
วิทยาลัยเทคนิคล าพูน สถาบันการอาชีวศึกษา ภาคเหนือ ๑. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรม
หาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา. บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยราชภัฏ
ล าปาง.
อรพิน ดวงแก้ว. (๒๕๔๔). การบริหารงานวิชาการในการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีของสถานศึกษา
สังกัดกรมอาชีวศึกษา เขตการศึกษา ๘. วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาการ
บริหารการศึกษา. ส านักบัณฑิตศึกษา : สถาบันราชภัฎเชียงราย.
Cronbach. (1971). Essentials of psychological testing. 4th ed., New York : Harper &
Row.
