แนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต ๑
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ ๑) เพื่อศึกษาระดับการปฏิบัติงานของครูตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ๒) เพื่อเปรียบเทียบการปฏิบัติงานของครูด้วยหลักสังคหวัตถุ ๔ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยาเขต ๑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำแนกตามเพศและประสบการณ์การทำงานของครู และ ๓) เพื่อเสนอแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานของครูตามหลัก
สังคหวัตถุ ๔ ของครูสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นการวิจัยเชิงสำรวจ ประกอบด้วยการแจกแบบสอบถามครูผู้ทำการสอนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๑ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน ๓๑๓ คน วิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ย และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน นำเสนอในรูปแบบตารางประกอบคำบรรยาย
ผลการวิจัยพบว่า
๑. ระดับการปฏิบัติงาน ตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต ๑ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณารายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทุกด้าน ด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยมากที่สุดคือ ด้านทาน และด้านที่มีคะแนนเฉลี่ยต่ำสุดคือ ด้านปิยวาจา และเมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าทุกข้ออยู่ในระดับมาก โดยข้อที่มีสภาพการปฏิบัติงานสูงสุด ได้แก่ ให้ความสำคัญกับการพัฒนางานวิชาการเพื่อพัฒนาการสอนของตนเอง
๒. การปฏิบัติงานตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต ๑ ที่มีเพศต่างกัน โดยภาพรวมและรายด้านแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ ๐.๐๕ คือ ด้านทาน ด้านปิยวาจาและด้านสมานัตตา และด้านที่ไม่แตกต่างกัน ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติคือ ด้านอัตถจริยาและประสบการณ์ในการทำงาน ต่ำกว่า ๑๐ ปี และที่มีประสบการณ์ในการทำงาน มากกว่า ๑๐ ปีขึ้นไปมีการปฏิบัติงาน โดยภาพรวมและรายด้านแตกต่าง
กันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ ๐.๐๕ คือ ด้านทาน และด้านปิยวาจา และด้านที่ไม่แตกต่างกัน ไม่มีนัยสำคัญทางสถิติ คือ ด้านอัตถจริยา และด้านสมานัตตา
๓. สถานศึกษาควรมีการนำแนวทางการพัฒนาการปฏิบัติงานตามหลักสังคหวัตถุ ๔ ของครูในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา พระนครศรีอยุธยา เขต ๑ ทั้ง ๔ ด้าน
ไปประยุกต์ใช้ในสถานศึกษาดังนี้
๑) การพัฒนาการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านทาน : มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้ ครูควรให้ การเสียสละ หรือ การเอื้อเฟื้อแบ่งปันของตนเพื่อประโยชน์แก่บุคคลอื่น ไม่ตระหนี่ถี่เหนียว
ไม่เป็นคนเห็นแก่ได้ฝ่ายเดียว ดังนั้น การทำงานจะต้องช่วยเหลือกันแบ่งปัน ไม่เห็นแก่ตัว รวมถึง การมีน้ำใจที่ดีต่อนักเรียนและเพื่อนร่วมงาน
๒) การพัฒนาการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านปิยวาจา : มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
ครูควรใช้วาจาประสานไมตรี การพูดจาด้วยถ้อยคำที่ไพเราะอ่อนหวาน พูดด้วยความจริงใจ ไม่พูดหยาบคาย ก้าวร้าว พูดในสิ่งที่เป็นประโยชน์และเหมาะสมกับกาลเทศะ พูดหรือ เจรจากันดัวยไมตรีและความปรารถนาดีต่อนักเรียนและเพื่อนร่วมงาน
๓) การพัฒนาการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านอัตถจริยา : มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้
ครูควรปฏิบัติในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น ดังนั้น การทำงานร่วมกันจะต้องช่วยเหลือกันด้วยกำลังงาน (กาย) กำลังความคิด และกำลังทรัพย์ ขัดเกลาจิตใจของตนให้เบาบางจากการเป็นคนเห็นแก่ตัว เป็นคนโลภมาก เป็นคนโกรธมาก มาเป็นผู้ที่สามารถจะเสียสละประโยชน์ของเราเองด้วยการช่วยเหลือคนอื่น
๔) การพัฒนาการปฏิบัติงานของบุคลากรด้านสมานัตตา : มีแนวทางในการปฏิบัติ ดังนี้ ครูควรร่วมทุกข์ร่วมสุขในทุกคราว การเป็นผู้มีความสม่ำเสมอ หรือมีความประพฤติเสมอต้นเสมอปลาย ผู้ทำงานร่วมกันทุกคนจะต้องไม่ถือตัว มีความเสมอภาค วางตนเสมอต้นเสมอปลาย ทำตนให้เป็นที่น่ารัก น่าเคารพนับถือ และน่าให้ความร่วมมือช่วยเหลือ การทำตนให้คงเส้นคงวา มีความมั่นคงในอารมณ์ต่อนักเรียนและเพื่อนร่วมงาน
Article Details
ทัศนะและความคิดเห็นที่ปรากฏในบทความในวารสารฉบับนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนบทความนั้นเพียงผู้เดียว และไม่ถือเป็นทัศนะและความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการ
กองบรรณาธิการขอสงวนสิทธิ์ในการคัดเลือกบทความลงตีพิมพ์และจะแจ้งให้เจ้าของบทความทราบหลังจากผู้ประเมินบทความตรวจอ่านบทความแล้ว
ต้นฉบับที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารครุศาสตร์ปริทรรศน์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ถือเป็นกรรมสิทธิ์ของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ห้ามนำข้อความทั้งหมดหรือบางส่วนไปพิมพ์ซ้ำ เว้นเสียแต่ว่าจะได้รับอนุญาตจากมหาวิทยาลัยฯ เป็นลายลักษณ์อักษร