การเปรียบเทียบผลการเรียนและเจตคติต่อวิชาภาษาอังกฤษโดยใช้โปรแกรมบทเรียน กับการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์2 วิชาภาษาอังกฤษของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

Main Article Content

วรรณภา กอกกระโทก

บทคัดย่อ

การวิจัยในครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) พัฒนาโปรแกรมบทเรียนกับการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 เรื่อง
My Self and Family ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) หาดัชนีประสิทธิผลของโปรแกรมบทเรียนกับการเรียน
แบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการเขียน และเจตคติต่อวิชา
ภาษาอังกฤษ เรื่อง My Self and Family โดยใช้โปรแกรมบทเรียนกับการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์
2 วิชาภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้วิจัยในครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 60 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (cluster Random Sampling)
จำแนกเป็นกลุ่มทดลองที่ 1 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนบ้านดอนเกตุ จำนวน 30 คน
เรียนโดยใช้โปรแกรมบทเรียน และกลุ่มทดลองที่ 2 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านปอพราน
จำนวน 30 คน เรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ โปรแกรมบทเรียน แผนการจัด
การเรียนรู้ด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบทักษะการเขียน และแบบ
วัดเจตคติต่อวิชาภาษาอังกฤษ สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบ
สมมติฐานใช้ Hotelling T2 

ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. โปรแกรมบทเรียนกับการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ เท่ากับ
87.08/85.78 และ 77.80/76.00 ตามลำดับ
2. โปรแกรมบทเรียนกับการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7245 และ
0.6299 ตามลำดับ
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้โปรแกรมบทเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ทักษะการเขียน และเจตคติต่อ
วิชาภาษาอังกฤษ สูงกว่านักเรียนที่เรียนการเรียนแบบร่วมมือด้วยเทคนิคจิ๊กซอว์ 2 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01

The purposes of this research were to : 1) develop a computer courseware and Cooperative Learning Jigsaw Technique 2 entitled My self and family with an effectiveness standard criterion of 75/75, 2) examine the effectiveness index of the courseware and Cooperative Learning Jigsaw Technique 2, 3) compare the learning achievement writing skill and attitude entitled My self and family for Prathomsueksa 6 students in English languages between learning by using computer courseware and Cooperative learning Jigsaw technique 2. The study sample consisted of 60 Prathomsueksa 6 students in the first semester of the
academic year 2013 , devided into two groups, one was 30 students at Bandongate school which used courseware learning and the other was 30 students at Banporpran school which used cooperative learning Jigsaw technique2. They were selected by a cluster Random sampling technique and assigned into 2 experimental groups: consisted of 30 Prathomsueksa 6 students at Bandongate school which used courseware learning and group 2 consisted of 30 Prathomsueksa 6 students at Banporpran school in the first semester of the academic year 2013 which used cooperative learning Jigsaw technique 2. The instruments used in this study included : a computer courseware, plan for group learning using Jigsaw technique 2, the learning achievement writing skill test in English and attitude toward English test. The statistics used for analyzing data were mean, percentage, and standard deviation, Hotelling T2 was employed for testing hypotheses.
The results of the study were as follows :
1. The developed computer courseware and group learning using Jigsaw Technique 2 had an
efficiency of 87.08/85.78 and 77.80/76.00, respectively.
2. The developed computer courseware and group learning using Jigsaw Technique 2 had an
effectiveness index 0.7245 and 0.6299, respectively.
3. The students who learned using computer courseware in English had higher achievement writing skill and attitudes towards than the students who leaned using cooperative learning jigsaw technique 2 at the .01 level of significance.

Article Details

บท
บทความวิจัย (Research Article)