การพัฒนารูปแบบประสิทธิผลของการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อพัฒนารูปแบบประสิทธิผลของการทำ งานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัด
สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้วิธีการวิจัยแบบพหุวิธี (Multiple
Methodologies) ได้แก่ การวิเคราะห์เอกสารและงานวิจัย การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ การศึกษารายกรณี การใช้เท
คนคิ เดลฟายแบบปรบั ปรงุ (Modified Delphi Technique) จำนวน 3 รอบ และการวิจัยเชิงสำรวจกล่มุ เป้าหมายของ
การวิจัยครั้งนี้ ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิจำนวน 8 คน ผู้เชี่ยวชาญจำนวน 20 คน ซึ่งเลือกแบบเจาะจง (Purposive
Sampling) สถานศึกษาดีเด่น จำ นวน 2 แห่ง โดยสัมภาษณ์ผู้บริหารสถานศึกษา 2 คน และครู 18 คน รวมทั้งสิ้น
20 คน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา และครูในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการ
ศึกษาขั้นพื้นฐานในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปีการศึกษา 2555 จำนวน 495 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบหลายขั้น
ตอน (Multi-stage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลได้แก่ แบบวิเคราะห์เนื้อหา แบบสัมภาษณ์
แบบมีโครงสร้าง แบบสอบถามชนิดมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) แบบตรวจสอบรายการ (CheckList) และ
แบบเติมคำสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ความถี่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน มัธยฐาน และ
ค่าพิสัยระหว่างควอไทล์
ผลการวิจัย พบว่ารูปแบบประสิทธิผลของการทำงานเป็นทีมในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยรวมอยู่ในระดับมาก และรายด้านอยู่ในระดับมากที่สุด 2 ด้าน คือ ด้านคุณลักษณะ
ของทีม และ ด้านกระบวนการทำงานเป็นทีม อยู่ในระดับมาก 1 ด้าน คือ ด้านประสิทธิผลของการทำงานเป็นทีม ซึ่งมี
รายละเอียด ดังนี้

1. องค์ประกอบหลักด้านคุณลักษณะของทีม พบว่ามี 6 องค์ประกอบย่อย คือ ด้านองค์ประกอบของทีม ด้าน
เป้าหมายของทีม ด้านบทบาทของทีม ด้านปทัสถานของทีม ด้านสารสนเทศของทีม และด้านขนาดของทีม
2. องค์ประกอบหลักด้านกระบวนการทำ งานเป็นทีม พบว่ามี 5 องค์ประกอบย่อย คือ ด้านภาวะผู้นำ ทีมด้าน
การมีส่วนร่วมของทีม ด้านการติดต่อสื่อสารของทีม ด้านความเหนียวแน่นของทีม และด้านการจัดการความขัดแย้ง
ของทีม
3. องค์ประกอบหลักด้านประสิทธิผลของการทำงานเป็นทีม พบว่ามี 3 องค์ประกอบย่อย คือ ด้านผลการปฏิบัติ
งาน ด้านเจตคติ และด้านพฤติกรรมการธำรงความเป็นทีม

The purpose of this study was to develop the effectiveness model of teamwork in schools under the
Office of the Basic Educational Commission in the Northeast of Thailand. This research employed multiple
methodologies including : research and documentary analysis, scholars interview,case study, three
rounds of modified Delphi technique and a survey research. The target groups consisted of 8 scholars, 20
educational experts, 2 school administrators and 18 teachers from 2 outstanding schools using purposive
sampling technique.The subjects were composed of 495 school administrators and teachers in academic
year 2012, obtained through multi-stage random sampling. The instruments employed for collecting data
included , structured interview, a set of 5 – point rating scale questionnaire, and checklist.To analyze data,
percentage, mean, standard deviation, median and interquartile range were used.
The findings were as follows :
The effectiveness model of teamwork in the schools under the Office of the Basic Education Commission
in the Northeast of Thailand, was in general at the highest level. When separately considered, it
was found that teamwork procedure was at the highest level whereas effectiveness of teamwork was at the
high level. The details could be concluded as follows:
1. The aspects of teamwork characteristics comprised : 1) team composition , 2) team goals 3) team
roles 4) team norms 5) team information technology and 6) team sizes.
2. Five elements of Teamwork process included: 1) team leadership, 2) team participation, 3) team
communications, 4) team cohesion and 5) team management of conflict.
3. Three elements of teamwork effectiveness were composed of: 1) performances, 2) attitudes, and
3) team attainment.