การศึกษาปัจจัยความสำเร็จการจัดการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นล้านนาเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
บทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาปัจจัยความสำเร็จของพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นล้านนา 2)เพื่อส่งเสริมผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและกลยุทธ์การตลาดมิติของผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม 3) เพื่อนำเสนอแนวทางการพัฒนาและจัดการผลิตภัณฑ์การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน การวิจัยใช้ระเบียบวิธีแบบผสมผสาน (Mixed Methods) โดยการเก็บข้อมูลเชิงปริมาณผ่านแบบสอบถามจากนักท่องเที่ยวจำนวน 384 คน และการวิจัยเชิงคุณภาพผ่านการสัมภาษณ์เชิงลึกกับผู้บริหารและบุคลากรของพิพิธภัณฑ์จำนวน 15 คน เครื่องมือวิจัยประกอบด้วยแบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบสังเกตพฤติกรรม ข้อมูลที่ได้ถูกวิเคราะห์โดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่าปัจจัยความสำเร็จของการจัดการพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นล้านนามี 10 ปัจจัยหลัก โดยปัจจัยที่มีความสำคัญสูงสุด ได้แก่ การส่งเสริมคุณค่าทางวัฒนธรรม การเพิ่มพูนความรู้และความเข้าใจของนักท่องเที่ยว และประสิทธิภาพของการจัดแสดงนิทรรศการ ตามลำดับ นอกจากนี้ พบว่าแม้พิพิธภัณฑ์จะมีศักยภาพสูงในการเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้และการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แต่ยังคงมีความท้าทายที่ต้องได้รับการพัฒนาในสามประเด็นหลัก ได้แก่ การพัฒนารูปแบบนิทรรศการและกิจกรรมควรนำเทคโนโลยีดิจิทัล เช่น ความจริงเสริม (AR) และความจริงเสมือน (VR) มาใช้ในการนำเสนอข้อมูล พร้อมทั้งจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างประสบการณ์แบบ "Living Museum"การบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ควรปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานภายในพิพิธภัณฑ์ เช่น ป้ายบอกทาง ระบบขนส่ง และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงการเสริมสร้างความร่วมมือกับภาครัฐ เอกชน และชุมชนท้องถิ่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน การใช้
กลยุทธ์การตลาดดิจิทัล ควรเพิ่มการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อสังคมออนไลน์และแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงการพัฒนาคอนเทนต์ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่สนใจการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม เป็นแนวทางในการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นล้านนาให้สามารถตอบสนองต่อแนวโน้มของการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและเป็นแหล่งเรียนรู้ที่ยั่งยืนในอนาคต
เอกสารอ้างอิง
โดม ไกรปกรณ์. (2557). คุ้มหลวงและเวียงแก้วของเจ้าเชียงใหม่ในสมัยรัชกาลที่ 5: เรื่องราวที่ไม่ถูกเล่าถึงใน
พงศาวดารสยามและร่องรอยที่พบในหลักฐานอื่น. วารสารหน้าจั่ว: ว่าด้วยประวัติศาสตร์สถาปัตยกรรมและสถาปัตยกรรมไทย, 10(1), 10-25.
ทัศนัย บูรณุปกรณ์ (2559). พิพิธภัณฑ์พื้นถิ่นล้านนา เล่าขานอดีตถึงปัจจุบันเมืองเชียงใหม่. สืบค้นเมื่อ 9
มีนาคม 2567, จาก http://www.topchiangmai.com/trip/lanna-folklife-museum/
เทิดชาย ช่วยบำรุง. (2551). การท่องเที่ยวเชิงศิลปวัฒนธรรม: จุดเปลี่ยนอันดามันสู่ความยั่งยืน. กรุงเทพฯ:
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
ปนัดดา โตคำนุช. (2558). การศึกษาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพมรดกวัฒนธรรมชุมชนวัดเกตให้เป็นพิพิธภัณฑ์มีชีวิต
เพื่อการเรียนรู้และท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของเมืองเชียงใหม่. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต
(สาขาวิชาการจัดการศิลปะและวัฒนธรรม), บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
พรทิพย์ กิจเจริญไพศาล. (2553). การศึกษาทรัพยากรท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนชาวมอญเพื่อส่งเสริม
การท่องเที่ยวเชิงนิเวศในจังหวัดปทุมธานี. ปริญญานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาการวางแผนและการจัดการการท่องเที่ยวเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
พระครูวิมลศิลปกิจ (เรืองฤทธิ์ ธนปญฺโญ) และคณะ. (2555). การศึกษารูปแบบและสภาพแหล่งเรียนรู้ของวัดที่
เป็นแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงราย. เชียงราย: มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตพะเยา.
พิชญ์ดนู ภู่ทอง. (2558). รูปแบบในการดำเนินกิจการ และกลยุทธ์การตลาดของพิพิธภัณฑ์แบทแคท มิวเซียม
แอนด์ ทอยส์ ไทยแลนด์. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ภัทรา แจ้งใจเจริญ. (2558). การจัดการการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม: กรณีศึกษา ชุมชนโอหงิมาจิ หมู่บ้านชิ
ราคาว่าโก จังหวัดกิฟุ ประเทศญี่ปุ่น. วิทยานิพนธ์ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, สาขาวิชาญี่ปุ่นศึกษา, คณะศิลปศาสตร์, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) (2562). พิพิธภัณฑ์ในประเทศไทยออนไลน์. สืบค้นเมื่อ 12 มีนาคม
, จาก https://db.sac.or.th/museum/
Lehn, D. V. (2005). Accounting for new technology in museum exhibition. International Journal
of Arts Management, 7(3), 11-21.
McKercher, B., & du Cros, H. (2002). Cultural tourism: The partnership between tourism and
cultural heritage management. New York: The Haworth Hospitality Press.
Hooper-Greenhill, E. (2007). Museums and education: Purpose, pedagogy and performance.
Routledge.
ICOM. (2019). Museums, sustainability and climate action. International Council of Museums.
Kotler, P., Bowen, J. T., & Makens, J. C. (2017). Marketing for hospitality and tourism (7th ed.).
Pearson.
UNESCO. (2015). World heritage and sustainable development. UNESCO Publishing.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

