การประเมินหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต สาขานโยบายสาธารณะและการจัดการภาครัฐ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยตัวแบบ CIPPO
คำสำคัญ:
การประเมินหลักสูตร; รัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต; มหาวิทยาลัยมหิดล; ตัวแบบ CIPPOบทคัดย่อ
บทความวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินประสิทธิภาพและประสิทธิผลของหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต (รป.ด.) สาขาวิชานโยบายสาธารณะและการจัดการภาครัฐ คณะสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล โดยใช้ตัวแบบ CIPPO 2) ศึกษาสภาพปัญหาและอุปสรรคของการดำเนินการหลักสูตร รป.ด. และ 3) จัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงหลักสูตรหลักสูตร รป.ด. ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากยิ่งขึ้น เป็นการวิจัยเชิงปริมาณโดยใช้แบบสอบถามออนไลน์ผ่าน Google Forms เป็นเครื่องมือ ประชากรได้แก่ 1) นักศึกษาปัจจุบันหลักสูตร รป.ด. และ 2) ศิษย์เก่าหลักสูตร รป.ด. รวมทั้งสิ้น 140 คน ดำเนินการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงและแบบสะดวก ผลการศึกษาพบว่า ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมของหลักสูตรฯ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของสภาพเศรษฐกิจ สังคม เทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้รูปแบบการจัดการภาครัฐเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้หลักสูตรฯ ต้องปรับเปลี่ยนตนเองโดยมุ่งส่งมอบกำลังคนที่มีความรู้และทักษะสมัยใหม่ให้แก่ภาครัฐและภาคส่วนอื่น ๆ ด้านปัจจัยนำเข้า พบว่า จุดเด่นของหลักสูตรฯ ได้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดลเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง มีมาตรฐานด้านการศึกษาที่สูง หลักสูตรฯ จัดตารางเวลาเรียนที่เหมาะสม มีรายวิชาที่น่าสนใจ และหลักสูตร รป.ด. มีค่าธรรมเนียมการศึกษาที่ต่ำ ด้านการจัดการเรียนการสอน พบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามมีโอกาสฝึกฝนพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร เช่น การพูด การเขียน และการนำเสนองานในชั้นเรียน ผู้ตอบแบบสอบถามรายงานตรงกันว่า ตนตัดสินใจถูกต้อง ที่เลือกเรียนหลักสูตร รป.ด. ของมหาวิทยาลัยมหิดล ด้านผลลัพธ์จากการเรียน ผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่า ตนมีความพร้อมในทักษะการทำงานจริงเพิ่มมากขึ้น เช่น ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะการนำเสนอที่ดี การพูดในที่สาธารณะ การทำวิจัย การคิดถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมมากว่าส่วนตน อย่างไรก็ตาม หลักสูตรฯ ยังมีจุดที่ต้องปรับปรุง ได้แก่ การขาดการเชื่อมโยงองค์ความรู้ในชั้นเรียนกับสถานการณ์จริง การขาดรายวิชาที่ทันสมัยที่ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของโลก การขาดการสอนองค์ความรู้ด้านวิจัยและการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง ตลอดจนการขาดช่องทางในการพัฒนาทักษะนอกชั้นเรียนอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการประกอบวิชาชีพของบัณฑิต
เอกสารอ้างอิง
Bright, L., & Graham, C. B. (2016). Predictors of graduate student satisfaction in public administration programs. Journal of Public Affairs Education, 22(1), 17–34. https://doi.org/10.1080/15236803.2016.12002226
Imansari, N., & Sutadji, E. (2017). A Conceptual Framework Curriculum Evaluation Electrical Engineering Education. International Journal of Evaluation and Research in Education (IJERE), 6(4), 265. https://doi.org/10.11591/ijere.v6i4.7624
Kirkpatrick, D. L. (1998). The four levels of evaluation. In S. M. Brown & C. J. Seidner (Eds.), Evaluating corporate training: models and issues (pp. 95–112). Springer Netherlands. https://doi.org/10.1007/978-94-011-4850-4_5
Matei, A., & Dinca, D. V. (2022). Future online learning for public administration. Sustainability, 14(18), 11540. https://doi.org/10.3390/su141811540
Nouraey, P., & Al-Badi, A., Riasati, M. J., & Maata, R. L. (2020). Educational program and curriculum evaluation model: A mini-systematic review of the recent trends. Universal Journal of Educational Research, 8(9), 4048-4055.
Nunnally, J. C., & Bernstein, I. H. (2010). Psychometric theory (3rd ed.). Tata McGraw Hill Education Private Ltd.
Pimentel, J. L. (2010). A note on the usage of Likert Scaling for research data analysis. USM R&D Journal, 18(2), 109-112
Scheerens, J. (1990). School effectiveness and the development of process indicators of school functioning. School Effectiveness and School Improvement, 1, 61-80.
Stufflebeam, D. L. (1971). The relevance of the CIPP evaluation model for educational accountability. Journal of Research and Development in Education, 5, 19-25.
Turner, R. C., & Carlson, L. (2003). Indexes of item-objective congruence for multidimensional items. International Journal of Testing, 3(2), 163–171.
Ungsuchaval, T., Boossabong, P., & Hartley, K. (2022). Public policy education in Thailand: From caged pedagogy to disciplinary Independence? Journal of Asian Public Policy, 1–21. https://doi.org/10.1080/17516234.2022.2065739
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2025 สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

