ผลการใช้โปรแกรมสำหรับตรวจนับหนังสือในห้องสมุดต่อประสิทธิภาพการทำงานในห้องสมุด คณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล
คำสำคัญ:
สำรวจหนังสือ, ห้องสมุด, โปรแกรมบทคัดย่อ
การศึกษานี้มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อเปรียบเทียบระยะเวลา และปริมาณกระดาษที่ใช้ ในการสำรวจหนังสือ ระหว่างการใช้และไม่ใช้โปรแกรมการตรวจหนังสือ 2) เพื่อศึกษาความถูกต้องของข้อมูลสำรวจหนังสือเมื่อใช้หรือไม่ใช้โปรแกรมการตรวจนับหนังสือ และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจต่อการใช้โปรแกรมการตรวจนับหนังสือ ณ ห้องสมุดคณะกายภาพบำบัด มหาวิทยาลัยมหิดล ผู้เข้าร่วมวิจัยจำนวน 20 คน มีช่วงอายุตั้ง 18 ถึง 30 ปี เป็นเพศหญิงร้อยละ 80 และเพศชายร้อยละ 20 ผู้เข้าร่วมวิจัยทุกคนถูกสุ่มเลือกให้สำรวจทั้งสองโปรแกรมและตอบแบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วยการเปรียบเทียบระหว่างกลุ่มที่ไม่เป็นอิสระต่อกัน (paired t-test) การทดสอบไคสแควร (chi-square test) และการวิเคราะห์เชิงพรรณนาของข้อมูลในแบบสอบถาม และกำหนดค่านัยสำคัญทางสถิติ (p) เท่ากับ 0.05
ผลการศึกษา พบว่าด้านเวลาการใช้โปรแกรมและไม่ใช้โปรแรกมในการสำรวจหนังสือนั้น ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ของการจัดเตรียมข้อมูล การจัดเตรียมเอกสาร และสรุปผลการสำรวจ แต่ในการสำรวจหนังสือบนชั้น พบว่าเวลาการสำรวจหนังสือโดยใช้โปรแกรมจะน้อยกว่าการไม่ใช้โปรแกรม 6.42 วินาทีต่อเล่มอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p=0.04) และด้านการใช้ทรัพยากรกระดาษ การใช้โปรแกรมสำรวจหนังสือจะไม่ใช้กระดาษ ในขณะที่การไม่ใช้โปรแกรมสำรวจหนังสือใช้กระดาษจำนวน 3 แผ่น ด้านความถูกต้องของข้อมูลในการสำรวจหนังสือพบว่าการใช้โปรแกรมในการสำรวจหนังสือมีความถูกต้องของข้อมูล ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p < 0.05) ยกเว้นการตรวจความถูกต้องของหนังสือชำรุด ไม่ใช้โปรแกรมมีความถูกต้องมากกว่าการใช้โปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.001) และพบระดับความพึงพอใจมากที่สุดในทุกด้านของผู้ที่ใช้โปรแกรมการสำรวจหนังสือ การศึกษานี้สรุปได้ว่าโปรแกรมการสำรวจหนังสือสามารถช่วยลดเวลา ทรัพยากรกระดาษ และมีความถูกต้องของการตรวจเลขหนังสือและพบเล่มหนังสือ
เอกสารอ้างอิง
เปลี่ยนความรู้ฝังแน่นเป็นความรู้สู่สาธารณะ, (2553). สำรวจหนังสือด้วยเครื่อง Pocket PC Program ILS Inventory (ออนไลน์). สืบค้นจาก http://www.lib.kmitl.ac.th/blogCL/?p=1367 [6 กุมภาพันธ์ 2562]
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ. (2558). โครงการระบุหนังสือด้วยคลื่นวิทยุ. สืบค้นจาก http://arit.rmutp.ac.th/wp-content/uploads/2015/09/%E0%B9%80%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%87%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9A%E0%B8%B8%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87%E0%B8%AA%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B9%89%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B8.pdf
ณัฐพงษ์ กิตติสาทร. (2554). ประสิทธิภาพการใช้โปรแกรมนาวิชั่นของ บริษัท ฮอทพอท จำกัด (มหาชน). มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธญบุรี, ประทุมธานี.
อรุณ จิรวัฒน์กุล. (2556). สถิติทางวิทยาศาสตร์สุขภาพเพื่อการวิจัย Statistics for Health Science Research. กรุงเทพฯ: วิทยพัฒน์.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

