มาตรการสกัดกั้นเครือข่ายการค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน
คำสำคัญ:
มาตรการสกัดกั้น, การค้ายาบ้า, ภาคเหนือตอนบนบทคัดย่อ
การวิจัยเรื่อง มาตรการสกัดกั้นเครือข่ายการค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสถานการณ์และมาตรการการค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนและเพื่อให้ได้รูปแบบมาตรการสกัดกั้นเครือข่ายการค้ายาบ้าที่มีประสิทธิภาพ
การศึกษานี้เป็นการวิจัยแบบผสมผสานโดยการศึกษาทั้งเชิงคุณภาพ และเชิงปริมาณ การวิจัยเชิงคุณภาพใช้แบบสัมภาษณ์ เป็นเครื่องในการเก็บรวบรวมข้อมูลจากกลุ่มผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวนทั้งสิ้น 50 คน สำหรับการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้แบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง เป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดรวมทั้งสิ้น 374 คน
ผลการวิจัยพบว่ามาตรการสกัดกั้นเครือข่ายการค้ายาบ้าในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนบนที่มีประสิทธิภาพได้แก่ มาตรการสร้างความเป็นมืออาชีพของเจ้าหน้าที่มาตรการสร้างความสร้างสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐกับชุมชนมาตรการสร้างการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพมาตรการสร้างการใช้ระบบสื่อสารเทคโนโลยีที่ทันสมัย มาตรการสร้างความมีประสบการณ์การทำงาน มาตรการสร้างความต่อเนื่องในการทำงาน มาตรการสร้างการจัดสัมมนาฝึกอบรมความรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง มาตรการสร้างการค้นหาหลักฐานให้ถึงต้นทางของสาเหตุและมาตรการสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศ
เอกสารอ้างอิง
พรชัย ขันตี.(2558)ทฤษฎีอาชญาวิทยา : หลักการ งานวิจัยและนโยบายประยุกต์. กรุงเทพฯ :ส.เจริญการพิมพ์.
มานพ เนียรภาค ( 2556)ประสิทธิภาพในการดำเนินการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์.วิทยานิพนธ์พุทธศาสตร์มหาบัณฑิต.มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย.
รัฐการ ศรีศกุน(2560)การลักลอบลำเลียงขนส่งยาเสพติดผ่านทางไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์.วารสารสำนักงานป,ป.ส. ปี่ที่ 33 ฉบับที่ 3 (มิถุนายน-กันยายน 2560).บริษัทออนป้า จำกัด
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (2553.). ความรู้และแนวทางการป้องกันและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติด. กรุงเทพฯ :สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด,
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด(2557).คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 41/2557 เรื่องการปราบปรามและหยุดยั้งการแพร่ระบาดของยาเสพติด. กรุงเทพฯ :สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด.
สุนทรีพรรณ กำปั่นทอง. (2551)ปัญหาและอุปสรรคในการปราบปรามยาเสพติดของเจ้าหน้าที่ชุดปราบปรามยาเสพติดตำรวจภูธร จังหวัดยะลา. มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
Beccaria ,Cesare(1963) On Crimes and Punishment, translated by Henry Paolucci, Indianapolis: Bobbs-Merrill Educational Publishing.
Chee-Yee Chong and Martin Liggins(1994)Fusion Technologies for Drug Interdiction. Paper presenting in IEEE International Conference.
Lyman and Potter (2007) Organized Crime. Pearson/Prentice Hall Master,
Senna, Jonseph J. and Larry J.Siegel (1999). Introduction to Criminal Justice (8th ed.). New York :West Publishing Company.
Vold,George B.and Thomas J.Bernard. (1986).Theoretical Criminology.New York:Oxford University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
สหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์และสิทธิของผู้นิพนธ์ในการเผยแพร่ผลงานวิชาการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความโปร่งใส ความถูกต้องตามหลักวิชาการ และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติสากล ทั้งนี้ วารสารกำหนดนโยบายดังต่อไปนี้
|
1. การยอมรับเงื่อนไขการเผยแพร่ - ผู้นิพนธ์ที่ส่งบทความเพื่อตีพิมพ์ ต้องปฏิบัติตามนโยบายและเงื่อนไขการเผยแพร่ของวารสารโดยเคร่งครัด - การส่งบทความถือเป็นการยอมรับให้นำบทความเข้าสู่กระบวนการพิจารณาและการเผยแพร่ตามมาตรฐานของวารสาร |
|
2. การโอนลิขสิทธิ์ - เมื่อบทความได้รับการตอบรับเพื่อตีพิมพ์ ผู้เขียนโอนลิขสิทธิ์ของบทความให้แก่วารสาร - วารสารมีสิทธิ์เผยแพร่ ทำซ้ำ และเผยแพร่บทความในทุกรูปแบบ ทั้งสิ่งพิมพ์ เว็บไซต์ และสื่อออนไลน์อื่น ๆ |
|
3. สิทธิ์ของผู้นิพนธ์หลังการโอนลิขสิทธิ์ - ผู้นิพนธ์ยังคงมีสิทธิ์ใช้บทความเพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ เช่น การสอน การวิจัยส่วนบุคคล การใช้ประกอบวิทยานิพนธ์ หรือการเผยแพร่ในแพลตฟอร์มที่ไม่ใช่เชิงพาณิชย์ - การนำบทความไปใช้เพื่อวัตถุประสงค์เชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตจากวารสารก่อนเป็นลายลักษณ์อักษร |
|
4. การเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาตสาธารณะ (Creative Commons License) - บทความทั้งหมดในวารสารจะเผยแพร่ภายใต้สัญญาอนุญาต Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International (CC BY-NC-ND 4.0) - บุคคลอื่นสามารถเผยแพร่หรือแบ่งปันบทความได้โดยต้องให้เครดิตแก่ผู้นิพนธ์ต้นฉบับ แต่ห้ามแก้ไข ดัดแปลง หรือใช้ในเชิงพาณิชย์ |
|
5. ความถูกต้องของเนื้อหาและการใช้สื่อจากบุคคลที่สาม - ผู้เขียนต้องรับรองว่าบทความที่ส่งเพื่อตีพิมพ์เป็นผลงานต้นฉบับของตนเอง ไม่ได้ส่งซ้ำซ้อน (duplicate submission) และไม่ละเมิดลิขสิทธิ์หรือคัดลอกผลงานของผู้อื่น รวมถึงไม่มีการปลอมแปลงข้อมูล การตีพิมพ์ซ้ำ หรือการกระทำใด ๆ ที่ขัดต่อหลักจริยธรรมทางวิชาการ - ผู้เขียนต้องรับผิดชอบในการขออนุญาตใช้สื่อจากบุคคลที่สาม เช่น ภาพ ตาราง หรือกราฟิก และต้องอ้างอิงหรือให้เครดิตอย่างถูกต้องน |
|
6. ข้อจำกัดความรับผิดชอบ (Disclaimer) - บทความที่ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารสหศาสตร์: วารสารสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ถือเป็นลิขสิทธิ์ของวารสาร - ข้อความ ข้อมูล และข้อคิดเห็นที่ปรากฏในบทความเป็นความรับผิดชอบของผู้เขียนแต่ละท่านโดยตรง มิได้สะท้อนถึงทัศนะหรือจุดยืนของกองบรรณาธิการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง - หากบทความมีข้อผิดพลาดหรือการละเมิดสิทธิ์ใด ๆ ความรับผิดชอบทั้งหมดเป็นของผู้เขียนแต่เพียงผู้เดียว - การนำบทความไปใช้ในเชิงพาณิชย์ ต้องได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากบรรณาธิการวารสารก่อน ทั้งนี้ ผู้ขออนุญาตต้องจัดทำคำชี้แจงเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และลักษณะการใช้งานอย่างชัดเจน การใช้บทความในเชิงพาณิชย์โดยไม่ได้รับอนุญาตถือเป็นความรับผิดชอบของผู้ใช้แต่เพียงผู้เดียว |

