แนวทางการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงในการจัดการความรุนแรงในครอบครัว

ผู้แต่ง

  • สุขพัชรมณี กันแต่ง หลักสูตรการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
  • อัจฉรา ศรีพันธ์ หลักสูตรการศึกษาดุษฎีบัณฑิต สาขาวิชาพัฒนศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร

คำสำคัญ:

การจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิต, การเสริมสร้างพลังอำนาจ, ความรุนแรงในครอบครัว, ผู้หญิง

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันของปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงในจังหวัดพิษณุโลก 2) เพื่อสร้างและนำเสนอแนวทางการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงในการจัดการความรุนแรงในครอบครัวในจังหวัดพิษณุโลก เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ คือ ผู้เชี่ยวชาญด้านความรุนแรงในครอบครัว ผู้อำนวยการโรงเรียนและครู นักสังคมสงเคราะห์ รวมทั้งนายกและสมาชิกสมาคมสตรีศรีสองแคว เครื่องมือการวิจัยประกอบด้วยแบบสัมภาษณ์เชิงลึกและร่างแนวทางการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตฯ โดยใช้วิธีวิเคราะห์ข้อมูลเชิงเนื้อหาตามขั้นตอนของโคไลซ์ซี่

ผลการวิจัย พบว่า 1) ผู้หญิงในจังหวัดพิษณุโลกถูกกระทำความรุนแรงในครอบครัวเพิ่มขึ้นทุกปีและมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับช่วงสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สาเหตุมาจากการดื่มสุรา ติดสารเสพติด จึงส่งผลกระทบทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งผู้หญิงจัดการความรุนแรงด้วยการเล่าเรื่องราวที่ตนได้รับความรุนแรงให้คนที่เชื่อใจและยินดีรับฟังแล้วจึงขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ นอกจากนี้ ผู้หญิงพัฒนาคุณภาพชีวิตโดยเริ่มจากการรู้สึกถึงคุณค่าและความภาคภูมิใจในตนเอง 2) แนวทางการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงในการจัดการความรุนแรงในครอบครัว ประกอบด้วยการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ซึ่งใช้ทักษะในจัดการศึกษา คือ การแก้ไขปัญหา ความภาคภูมิใจในตนเองและการตระหนักรู้ในตนเอง โดยมีรูปแบบ วิธีการดำเนินการ การจัดกิจกรรมและการประเมินผล องค์ความรู้จากการวิจัย คือ 1) ทักษะการแก้ไขปัญหา 2) ทักษะความภาคภูมิใจในตนเอง 3) ทักษะการตระหนักรู้ในตนเอง

Downloads

Download data is not yet available.

เอกสารอ้างอิง

กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์. (2563). รายงานข้อมูลสถานการณ์ด้านความรุนแรงในครอบครัว สำหรับการรายงานตามมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทำด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. 2550 ประจำปี 2562. กรุงเทพมหานคร: กรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์.

กรมสุขภาพจิต. (27 เมษายน 2564). จะทำอย่างไร เมื่อความรุนแรงไม่ใช่เรื่องไกลตัวและบ้านไม่ใช่ Safe Zone ของทุกคน. สืบค้นเมื่อ 20 มกราคม 2566, จาก https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30715

เกษตรชัย และหีม และเก็ตถวา บุญปราการ. (2559). ภูมิหลังครอบครัวที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมความรุนแรงในครอบครัวของคู่สมรสไทยมุสลิมในจังหวัดปัตตานี. วารสารพัฒนบริหารศาสตร์. 57 (2), 83-105.

เกียรติเฉลิม รักษ์งาม. (2565). สภาพปัญหาและแนวทางการป้องกันความรุนแรงในครอบครัวในจังหวัดปทุมธานี: กรณีศึกษาช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด 19. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรังสิต.

นภาภรณ์ หะวานนท์. (2555). คำให้การของผู้หญิงที่ถูกสามีทำร้าย. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานกิจการโรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.

นันทินี ศุภมงคล. (2547). ความวิตกกังวล การสนับสนุนทางสังคมและกลวิธีการเผชิญปัญหาของนิสิตนักศึกษา. วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

ปพิชญา สุนทรพิทักษ์. (2563). ผู้หญิงกับประสบการณ์ความรุนแรงในครอบครัว กรณีศึกษามูลนิธิหญิงชายก้าวไกล. กรุงเทพมหานคร: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.

พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. (14 สิงหาคม 2542). ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 116 ตอนที่ 74ก. หน้า 1-23.

สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ. (28 เมษายน 2558). ผู้หญิงไทยกับเด็ก เหยื่อความรุนแรง. สืบค้นเมื่อ 28 มกราคม 2566, จาก https://shorturl.asia/AB16Z

สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ. (2563). ปัญหาความรุนแรงครอบครัว ภัยเงียบในวิกฤตโรคโควิด 19. จดหมายข่าวมุมมองสิทธิ์. 19 (4), 1-3.

สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพมหานคร: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.

สุกัญญา สดศรี. (2561). ปัญหาการใช้ความรุนแรงของครอบครัวในสังคมไทย. วารสารสันติศึกษาปริทรรศน์ มจร. 6 (ฉบับพิเศษ), 600-609.

สุกิจ อยู่ในธรรม. (2561). มาตรการทางกฎหมายในการป้องกันความรุนแรงในครอบครัว: ศึกษากรณีการจดทะเบียนสมรส. วารสารวิชาการมหาวิทยาลัย อีสเทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์. 8 (2), 45-51.

สุวรรณี หาญมุสิกวัฒน์กูร และคณะ. (2555). ความรุนแรงบนฐานเพศภาวะและความรุนแรงในครอบครัว: ฐานคิดทางสังคมและวัฒนธรรมรากเหง้าของความรุนแรงที่ยิ่งกว่า. วารสารเพศวิถีศึกษา. 2 (1), 79-96.

หทัยรัตน์ มาประณีต. (2554). การศึกษาทัศนคติด้านความรุนแรงต่อสตรีของสตรีในชุมชนเมือง. วารสารศรีนครินทรวิโรฒวิจัยและพัฒนา (สาขามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์). 3 (6), 162-177.

อังคณา ช่วยค้ำชู. (2555). ความรุนแรงในครอบครัว: สาเหตุ ผลกระทบและแนวทางการช่วยเหลือ. วารสารธรรมศาสตร์. 31 (3), 130-145.

Elizabeth, H. (24 February 2020). Maslow's Hierarchy of Needs Explained. Retrieved January 25, 2023, from https://www.thoughtco.com/maslows-hierarchy-of-needs-4582571

Lankarani, K. B., et al. (2022). Domestic Violence and Associated Factors during COVID-19 Epidemic: An Online Population-based Study in Iran. BMC Public Health. 22, 774. DOI: 10.1186/s12889-022-12536-y

Rogers, C. (1951). Client-centered Therapy: Its Current Practice, Implications and Theory. London: Constable.

#JSBS #TCI1

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

2023-10-17

รูปแบบการอ้างอิง

กันแต่ง ส., & ศรีพันธ์ อ. (2023). แนวทางการจัดการศึกษาบนฐานทักษะชีวิตเพื่อเสริมสร้างพลังอำนาจของผู้หญิงในการจัดการความรุนแรงในครอบครัว. วารสารบัณฑิตแสงโคมคำ, 8(3), 476–497. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jsbs/article/view/261773