การเปรียบเทียบการคิดอย่างมีวิจารณญาณวิชาสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน
Main Article Content
บทคัดย่อ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่ศึกษาอยู่ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2567 โรงเรียนบางบาล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพระนครศรีอยุธยา เขต 3 จำนวน 1 ห้องเรียน รวม 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรมด้วยการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน แบบทดสอบวัดการคิดอย่างมีวิจารณญาณ วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้
โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และร้อยละความก้าวหน้า
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนและหลังเรียนเท่ากับ 9.57 และ 12.77 ตามลำดับ โดยกำหนดเกณฑ์การแปลผลการเรียนรู้หรือผลการพัฒนาที่ตั้งไว้ คือ ร้อยละ 10 พบว่า ค่าร้อยละความก้าวหน้าของผลคะแนนแบบทดสอบสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด คือ ร้อยละ 16 ดังนั้น นักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้
โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีความก้าวหน้าของการพัฒนาการคิดอย่างมีวิจารณญาณสูงขึ้น
2. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน มีค่าเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.29 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.31 ซึ่งอยู่ในระดับมาก
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กฤตนัย ก้องแดนไพร. (2562). การพัฒนาความสามารถการแก้ปัญหาในวิชากีฬาฟุตบอลโดยใช้ปัญหาเป็นฐานและการทำงานเป็นทีม สำหรับกีฬาฟุตบอลสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาธุรกิจบัณฑิตย์). ศูนย์ข้อมูลการวิจัย Digital "
วช.".https://dric.nrct.go.th/Search/ShowFulltext
กระทรวงศึกษาการ. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ชนาธิป พรกุล. (2554). การสอนกระบวนการคิดทฤษฎีและการนำไปใช้. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: วี พริ้นท์ (1991) จำกัด.
ทิศนา แขมมณี. (2556). ศาสตร์การสอน : องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 17). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ประพันธ์ศิริ สุเสารัจ. (2561). การพัฒนาการคิด. กรุงเทพฯ: 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.
พิชาภา ด้วงสงค์. (2565). การพัฒนาความสามารถในการคิดอย่างมีวิจารณญาณและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง สารรอบตัวโดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐานร่วมกับผังกราฟิก. (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร). https://gsmis.snru.ac.th/ethesis/file_att1/2023030262421238212_fulltext.pdf
เวชฤทธิ์ อังกนะภัทรขจร. (2555). ครบเครื่องเรื่องควรรู้สำหรับครูคณิตศาสตร์ : หลักสูตรการสอนและการวิจัย. กรุงเทพฯ: จรัสสนิทวงศ์การพิมพ์.
ศิริวรรณ ฉัตรมณีรุ่งเจริญ และ อรยา สมบูรณ์. (2564). การพัฒนาการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โดยการจัดการเรียนรู้แบบใช้ปัญหาเป็นฐาน เรื่อง ไฟฟ้าในบ้าน. (มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต). มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน. https://so04.
tci-thaijo.org/index.php/eduku/article/view/240596
สหพงศ จั่นศิริ. (2562). การพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานในรายวิชาหลักการจัดการฟาร์ม สำหรับนักเรียนระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ชั้นปีที่ 2 (วิทยานิพนธ์ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาธุรกิจบัณฑิตย์). Dhurakij Pundit University. https://libdoc.dpu.ac.th/thesis/Sahapong.Jun.pdf
สุคนธ์ สินธพานนท์ และคณะ. (2562). หลากหลายวิธีสอน เพื่อพัฒนาคุณภาพเยาวชนไทย. ห้างหุ้นส่วน จำกัด 9119 เทคนิคพริ้นติ้ง.
อรมนัส วงศ์ไทย. (2562). การจัดการเรียนรู้โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณและแก้ปัญหา เรื่อง ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์ศึกษาปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยนเรศวร). มหาวิทยาลัยนเรศวร. http://www.edu.nu.ac.th/th/news/docs/download/
Mores, N.C. (1959). Satisfaction in the white collar job. Michigan : University of Michigan.
Stromburg, M.F. (1986). Selecting an instrument to measure quality of lige. Oncology Nursing Forum.