รูปแบบการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ตามหลักพละ 5 สำหรับผู้บริหารโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาในเขตตรวจราชการที่ 12
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) ศึกษาสภาพปัจจุบัน สภาพที่พึงประสงค์ และความต้องการจำเป็นในการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ของผู้บริหารโรงเรียนเอกชนประเภทสามัญศึกษาในเขตตรวจราชการที่ 12 (2) สร้างและพัฒนารูปแบบการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ตามหลักพละ 5 และ (3) ประเมินความเหมาะสมของรูปแบบดังกล่าวการวิจัยใช้วิธีแบบผสมผสาน กลุ่มตัวอย่างประกอบด้วย ผู้บริหารและครู 365 คน รวมถึงผู้ให้ข้อมูลสำคัญ ได้แก่ ผู้เชี่ยวชาญ 15 คน ผู้ทรงคุณวุฒิสนทนากลุ่ม 9 คนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่ประเมินรูปแบบ 30 คน เครื่องมือวิจัย ได้แก่ แบบสอบถาม แบบสัมภาษณ์กึ่งโครงสร้าง และแบบประเมินรูปแบบ วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน เช่น ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า
1. ความต้องการพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของผู้บริหารมีลำดับความสำคัญ ดังนี้ 1) ความคิดเชิงภาษาศาสตร์และคณิตศาสตร์ 2) ความคิดยืดหยุ่น 3) ความคิดเชิงจิตวิญญาณและสุนทรียภาพ
4) ความคิดละเอียดลออ 5) ความคิดเชิงกลยุทธ์ และ 6) ความคิดริเริ่ม
2. รูปแบบการเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่พัฒนาขึ้นประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญ 2 ส่วนได้แก่ (1) ธรรมประยุกต์ 5 องค์ธรรม: ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ และปัญญา และ (2) รูปแบบ IFCSVS MODEL การประเมินรูปแบบพบว่ามีความถูกต้อง ครอบคลุม เหมาะสม ใช้ได้จริง และมีประโยชน์ในระดับสูง
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ธนกร คงรัตน์. (2560). ปัจจัยด้านการจัดการไอเดียความคิดสร้างสรรค์และสมรรถนะของบุคลากรที่ส่งผลให้เกิดนวัตกรรมในองค์กร กรณีศึกษา บริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์ขนาดใหญ่ในประเทศไทย. (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารเทคโนโลยี). วิทยาลัยนวัตกรรม
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์.
ธัญญารัตน์ โกมลเกียรติ. (2557). ผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์โดยใช้กระบวนการแก้ปัญหาเชิงสร้างสรรค์ที่มีต่อความสามารถในการแก้ปัญหาและความคิดสร้างสรรค์ทางคณิตศาสตร์ เรื่อง การประยุกต์ 1 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1. (วิทยานิพนธ์วิทยาศาสตร มหาบัณฑิต สาขาวิชาคณิตศาสตร์ศึกษา). ชลบุรี: มหาวิทยาลัยบูรพา.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติสำนักนายกรัฐมนตรี.
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี. (2566). รายงานผลการตรวจราชการแบบบูรณาการของผู้ตรวจราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รอบที่ 1 ประเด็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เรื่อง การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต. สืบค้นเมื่อ 5 มกราคม 2567, จาก https://pmi.opm.
go.th/inspect_main/uploadfiles/UUXZYLXPC5รายการพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชีวิต
Brown, L.D. (1983). Managing Conflict at Organization Interfaces. New York: Addison Wesley.
Gardner, Howard. (1993). Multiple Intelligence : The Theory in Practice. New York: Basic Books.
Hallman, R. J. (1971). “Techniques of Creative Teaching,”. Training Creative Thinking. Gary A.
Hawkins, L.D. & Coney, K.A. (2001). Consumer behavior : building marketing Strategy. (8th ed). McGraw-Hill: Companies. Michael Gelb. (2001). How to think like Leonados’Davinci: Liberating Creativity and Innovation in the Workplace. PBS The
business & Technology Network.
Porter, M. E.. (1998). The Competitive Advantage: Creating and Sustaining Superior Performance. NY: Free Press, 1985.
Taro Yamane. (1973). Statistics: an introductory analysis. New York: Harper & Row.