ผลของกลวิธี อาร์ อี เอ พี (REAP) เสริมด้วยการใช้คำถามหมวกความคิดหกใบ ต่อความสามารถในการอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนโดยใช้กลวิธี อาร์ อี เอ พี (REAP) เสริมด้วยการใช้คำถามหมวกความคิดหกใบ 2) เปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาไทยที่ได้รับการสอนโดยใช้กลวิธี อาร์ อี เอ พี (REAP) เสริมด้วยการใช้คำถามหมวกความคิดหกใบกับวิธีปกติ เป็นการวิจัยแบบกึ่งทดลอง (Quasi-Experimental Design) โดยใช้แบบแผนกลุ่มไม่เท่าเทียมทดสอบก่อน
และหลัง (Nonequivalent Control Group Design) กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 40 คน ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติทดสอบทีแบบกลุ่มไม่เป็นอิสระกัน
ผลการวิจัยพบว่า
1) นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้กลวิธี อาร์ อี เอ พี (REAP) เสริมด้วยการใช้คำถามหมวกความคิดหกใบ มีความสามารถในการอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน คะแนนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 16.65 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 33.45 เมื่อทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยพบว่า นักเรียนมีความสามารถในการอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
2) นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้กลวิธี อาร์ อี เอ พี (REAP) เสริมด้วยการใช้คำถามหมวกความคิดหกใบ มีความสามารถในการอ่านภาษาไทยอย่างมีวิจารณญาณหลังเรียนสูงกว่าวิธีปกติอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
ชฎาพร ทับบุญ. (2565). การพัฒนาความสามารถการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบปรากฏการณ์เป็นฐานร่วมกับแนวคิดแบบหมวกหกใบ. (วิทยานิพนธ์ปริญญาครุศาสตรมหาบัณฑิต). พิษณุโลก: มหาวิทยาลัยนเรศวร.
ณัฐพร สายกฤษณะ. (2563). การพัฒนาความสามารถในการอ่านวิเคราะห์และการเขียนสรุปความของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกลวิธี REAP ร่วมกับเทคนิคการใช้ผักราฟิก. (วิทยานิพนธ์ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ทิศนา แขมมณี. (2562). ศาสตร์การสอน: องค์ความรู้เพื่อการจัดกระบวนการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพ. (พิมพ์ครั้งที่ 23). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ธนวิทย์ กวินธนเจริญ และ อธิกมาส มากจุ้ย. (2564). การพัฒนาความสามารถในการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ และการทำงานเป็นทีมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกลวิธี SQP2RS. วารสาร มจร พุทธปัญญาปริทรรศน์, 6(2), 11-21.
โรงเรียนบ้านดุงวิทยา. (2564). ผลการทดสอบผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือ O-NET (Ordinary National Educational Test) รายวิชาภาษาไทย ของชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. อุดรธานี: โรงเรียนบ้านดุงวิทยา.
วีรภัทร ศุภรสิงห์. (2562). ผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้กลวิธี REAP ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวรรณคดีไทยและความสามารถในการคิดเชิงวิพากษ์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5. (วิทยานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579. กรุงเทพฯ: สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา.
Cahyaningtyas, A.P. (2017). The effect of REAP strategy on reading comprehension. Global Conference on Teaching, Assessment, and Learning in Education, 42(1), 1-6.
Eanet, M.G., & Manzo, A.V. (1976). REAP-strategy for improving reading/writing/study skill. Jornal of Reading, 19(1), 647-652.
Renette, R. (2016). Using REAP (Read, Encode, Annotate, Ponder) in teaching reading. Proceedings of the 4th International Seminar on English Language & Teaching (ISELT), 4(2), 278-282.
Supriyantini. (2017). Using read encode annotate and ponder (Reap) technique to increase reading comprehension: Case of the eleventh grade students of SMA Negeri 6 Semarang. Psychology, 8(1), 95-116.