ผลโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกันไตเสื่อมของผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงโรคไต
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพเปรียบเทียบพฤติกรรมสุขภาพการดูแลตนเองในการป้องกันโรคไตของกลุ่มทดลองก่อนและหลังเข้าร่วมโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงโรคไตและเพื่อเปรียบเทียบระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงโรคไตกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุม โดยใช้ระเบียบวิธีการวิจัยกึ่งทดลอง (Quasi Experiment Research) โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ
กลุ่มตัวอย่างเป็นผู้สูงอายุโรคเบาหวาน และโรคความดันโลหิตสูง อย่างน้อย 1 ปี เลือกกลุ่มตัวอย่างแบบสุ่มและมีกลุ่มควบคุม (Randomized Control Group pretest – posttest Design) จำนวน 44 คน เป็นกลุ่มทดลอง 22 คน กลุ่มควบคุม 22 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติทดสอบ Independent samples t-test และสถิติ t-test Dependent
ผลการวิจัยพบว่า
1. คะแนนเฉลี่ยระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุมีภาวะเสี่ยงโรคไตสูงกว่า ก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (p < .05)
2. คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพการป้องกันไตเสื่อมสูงกว่า ก่อนการทดลองอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติระดับที่ .05
3. ผู้สูงอายุกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีคะแนนเฉลี่ยระดับความรอบรู้ด้านสุขภาพ สูงกว่า ผู้สูงอายุกลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ( = 27.23, t (21.00) = -8.86, p < .05)
4. ผู้สูงอายุกลุ่มที่ได้รับโปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพ มีคะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมสุขภาพ สูงกว่า ผู้สูงอายุกลุ่มที่ไม่ได้รับโปรแกรมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (= 26.68, t (42.00) =6.69, p < .05) โปรแกรมการส่งเสริมความรอบรู้ด้านสุขภาพของผู้สูงอายุที่มีภาวะเสี่ยงโรคไต ทำให้ผู้สูงอายุกลุ่มเสี่ยงโรคไต เข้าถึง เข้าใจเกี่ยวการปัจจัยและอาการเสี่ยงโรคไต สามารถตรวจสอบหรือฝึกปฏิบัติได้ และสามารถนำไปใช้หรือการบอกต่อสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมสุขภาพการดูแลตนเองในการป้องกันภาวะไตเสื่อมได้
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
เกตุนรินทร์ บุญคล้าย, นิโรบล กนกสุนทรรัตน์ และ นพวรรณ พินิจขจรเดช. (2558). ความสัมพันธ์ระหว่างความรอบรู้ด้านสุขภาพกับพฤติกรรมการดูแลตนเองและอัตราการกรองของไตในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังระยะที่ 3-4. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี อุตรดิตถ์, 12(1), 225-239.
ขวัญเมือง แก้วดำเกิง และ ดวงเนตร ธรรมกุล. (2558). การเสริมสร้างความรอบรู้ด้านสุขภาพในประชากรผู้สูงวัย. วารสารวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ, 9(2), 1-8.
จิระภา ขำพิสุทธิ์. (2561). ความฉลาดทางสุขภาพ และพฤติกรรมสร้างเสริมสุขภาพของนิสิตมหาวิทยาลัยนเรศวร. วารสารการวัดผลการศึกษา มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 24(1), 67-78.
จินตนา หามาลี, นัยนา พิพัฒน์วณิชชา และ รวีวรรณ เผ่ากัณหา. (2557). ผลของโปรแกรมการส่งเสริมการรับรู้ตามแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพต่อพฤติกรรมการชะลอความก้าวหน้าของโรคไตเรื้อรังในผู้สูงอายุโรคเบาหวานชนิดที่ 2. วารสารวิทยาลัยพยาบาลสงขลานครินทร์, 34(2), 67-86.
นิตยาทิพย์ แสนแดง และ ชื่นจิตร โพธิศัพท์สุข. (2561). ผลของโปรแกรมส่งเสริมพฤติกรรมการใช้ยาในผู้สูงอายุโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อำเภอเขมราฐ จังหวัดอุบลราชธานี. วารสารการพยาบาลและการดูแลสุขภาพ, 36(3), 33-41.
เพ็ญพร ทวีบุตร, พัชราพร เกิดมงคล และ ขวัญใจ อำนาจสัตย์ซื่อ. (2561). ผลของโปรแกรมการพยาบาล ระบบสนับสนุนและให้ความรู้ในผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่มีภาวะไตเรื้อรังระยะเริ่มต้น. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 31(1), 129- 145.
มณีรัตน์ จิรัปปภา. (2557). การชะลอไตเสื่อมจากวัยผู้ใหญ่ถึงวัยผู้สูงอายุ. วารสารวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนี นครราชสีมา, 20(2), 5 – 16.
มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาผู้สูงอายุไทย. (2560). สถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560. นนทบุรี: เอพลัสมีเดีย.
วัชราพร เชยสุวรรณ. (2560). ความรอบรู้ด้านสุขภาพ : แนวคิดและการประยุกต์สู่การปฏิบัติการพยาบาล. วารสารแพทย์นาวี, 44(3), 183-197.
ศิริวรรณ พายพัตร, น้ำอ้อย ภักดีวงศ์ และ วารินทร์ บินโฮเซ็น. (2564). ความสัมพันธ์ระหว่างความรู้และการรับรู้สมรรถนะแห่งตนกับพฤติกรรมการจัดการตนเองในผู้ป่วยโรคไตเรื้อรัง. วารสารการพยาบาลและสุขภาพ สสอท., 3(2), 22 – 36.
อ้อ พรมดี, วีณา เที่ยงธรรม และ ปาหนัน พิชยภิญโญ. (2559). โปรแกรมการการป้องกันภาวะไตวายเรื้อรังในผู้ป่วยเบาหวาน ชนิดที่ 2 ที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ได้. วารสารพยาบาลสาธารณสุข, 30(3), 102-117.