การพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพโรงเรียนในสหวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี 2 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและแนวทางการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพ 2) พัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพ และ 3) ประเมินความเหมาะสมและเป็นไปได้ของรูปแบบการบริหารงานวิชาการ
เพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพของโรงเรียนในสหวิทยาเขตสุราษฎร์ธานี 2 สังกัดสำนักงาน
เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสุราษฎร์ธานี ชุมพร เป็นการวิจัยและพัฒนา กลุ่มผู้ให้ข้อมูลหลัก ได้แก่
ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 51 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบสอบถาม มีค่าความเชื่อมั่น 0.80 พัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการ
เพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพ โดยพิจารณาค่าดัชนีความสอดคล้องโดยผู้ทรงคุณวุฒิ
จำนวน 12 คน ประเมินความเหมาะสมและความเป็นไปได้ของของรูปแบบการบริหารงานวิชาการ
เพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพ โดยกลุ่มผู้ใช้ ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษา จำนวน 51 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้เป็นแบบประเมินมีค่าความเชื่อมั่น 0.78 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัยพบว่า 1) สภาพการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพ
อยู่ในระดับมาก 2 ด้าน คือ ด้านการพัฒนาหลักสูตรและด้านการจัดการเรียนการสอน ส่วนสภาพที่
พึงประสงค์ อยู่ในระดับมากที่สุด คือ ด้านการจัดการเรียนการสอนและด้านการประเมินผล 2) ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารงานวิชาการเพื่อส่งเสริมทักษะและประสบการณ์อาชีพ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ (1) หลักการ (2) วัตถุประสงค์ (3) ระบบงานและกลไก และ (4) เงื่อนไขการนำไปใช้ และ 3) ผลการประเมินรูปแบบโดยรวมพบว่า มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากและมีความเป็นไปได้ในการนำไปปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กนกวรรณ สุภาราญ. (2563). ทำไมความสัมพันธ์ระหว่างชุมชนและโรงเรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ
นักเรียน. สืบค้นเมื่อ 2 ตุลาคม 2564, จาก http://www.educathai.com/knowledge/arti
cles/425.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2560). การขับเคลื่อนการศึกษามัธยมศึกษาไทย 4.0 เพื่อการมีงานทำแห่งศตวรรษที่ 21.
กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
กระทรวงศึกษาธิการ. (2561). แนวทางการเสริมทักษะและสร้างเสริมประสบการณ์อาชีพให้แก่นักเรียน.
กรุงเทพฯ: สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.
นรรัชต์ ฝันเชียร. (2562). วิธีการวัดและประเมินผลตามสภาพจริงอย่างมีประสิทธิภาพ. สืบค้นเมื่อ 3
กันยายน 2564, จาก http:www.trueplookpanya.com/blog/content/73500/teaartedu-
teaart-teamet-.
ยูนิเซฟ ประเทศไทย. (2562). รายงานประจำปี 2562. กรุงเทพฯ : ยูนิเซฟ ประเทศไทย.
วิรัช วิรัชนิภาวรรณ. (2559). 50 แนวคิด ตัวชี้วัด ตัวแบบของการบริหารจัดการและการบริหารจัดการ
ที่ยั่งยืน. กรุงเทพฯ: นิติธรรม.
สมชาติ น้อยศิริสุข. (2560). ความร่วมมือที่ดีของภาคธุรกิจและการศึกษา. สืบค้นเมื่อ 3 กันยายน 2564,
จาก http://www.tqa.or.th/2017/01.
สินีนาฏ จันทะภา. (2564). “ครูยุคใหม่สู่การจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะ” สิ่งจำเป็นที่ต้องมี. สืบค้นเมื่อ
ตุลาคม 2564, จาก http://www.ipst.ac.th/news/12598/teacher_ipst.html.