METHOD OF TEACHER TO DEVELOP INSTRUCTIONAL INNOVATION IN THAI LANGUAGE FOR GRADE 10 STUDENTS

Main Article Content

Wassana Sangsuk
Phairoth Termtachatipongsa

Abstract

บทคัดย่อ


                   การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางของครูในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทยสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  และเพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย  กลุ่มเป้าหมายของการศึกษาได้แก่  ครูผู้สอนวิชาภาษาไทย  จำนวน 1 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา  2562  โรงเรียนปากคาดพิทยาคม  อำเภอปากคาด  จังหวัดบึงกาฬ รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative research)  เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครู  2) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน 3) แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอน  4) แบบสัมภาษณ์นักเรียน และ 5) แบบวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาไทย วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์โพรโทคอล (Protocol) และวิเคราะห์เชิงบรรยาย  ผลการวิจัยพบว่า ครูมีแนวทาง ในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ดังนี้ 1)


ครูผู้สอนได้สร้างกรอบแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้โดย พิจารณาองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ ศึกษาหลักสูตร เนื้อหา และเนื้อเรื่องที่สอน ศึกษาจุดเด่นและจุดด้อยของเนื้อหาวิชา ศึกษาสภาพปัญหาการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนและระดับความต้องการในขณะนั้น กำหนดแนวทางการพัฒนา และประเมินคุณภาพนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้น  2)เมื่อครูผู้สอนได้กรอบแนวคิดในการพัฒนานวัตกรรมแล้ว ครูผู้สอนได้นำมาวิเคราะห์โครงสร้างของเนื้อหา วิเคราะห์เวลาที่ใช้ และวิเคราะห์ผู้เรียน  3)ครูผู้สอนกำหนดวัตถุประสงค์การเรียนรู้ โดยพิจารณากำหนดวิธีการให้ผู้เรียนเกิดพฤติกรรมที่แสดงถึงการเรียนรู้และระดับของพฤติกรรมที่ต้องการ ด้วยการจัดลำดับเนื้อหากำหนดเวลาการนำเสนอและกิจกรรม โดยแบ่งประเภทการเรียนรู้และระดับการเกิดพฤติกรรมการเรียนรู้ ได้แก่ พุทธิพิสัย (Cognitive) คือ การรับข้อมูลและเนื้อหาความรู้จากสิ่งง่ายไปสู่สิ่งยากอันเป็นการพัฒนาสติปัญญาของมนุษย์  ทักษะพิสัย (Psycho-motor) คือ การเรียนรู้ที่แสดงออกในด้านทักษะและความสามารถทางด้านบังคับกลไกของร่างกายในการปฏิบัติงานต่างๆ และจิตพิสัย (Affective) คือ การเรียนรู้ด้านทัศนคติ ความรู้สึก  4)ครูผู้สอนกำหนดคุณลักษณะนวัตกรรมการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยการนำเอาวัตถุประสงค์มาเป็นกรอบกำหนดคุณลักษณะของนวัตกรรมการเรียนรู้ด้านประเภทการใช้งาน พิจารณาคุณลักษณะของนวัตกรรมการเรียนรู้ เพื่อคัดเลือกนวัตกรรมให้สอดคล้องกับประสิทธิภาพของการรับรู้ของผู้เรียน   5)ครูผู้สอนได้สำรวจทรัพยากรการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย (ชุดแบบฝึกทักษะ ชุดการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท 31102)   โดยสำรวจทรัพยากรที่จำเป็นได้แก่ สำรวจบุคลากร สำรวจเครื่องมือ วัสดุ และอุปกรณ์ สำรวจงบประมาณ และสำรวจสถานที่  6)ครูผู้สอนได้ออกแบบนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย (ชุดแบบฝึกทักษะ ชุดการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท 31102)   โดยคำนึงถึงความสำคัญกับหลักการและทฤษฏีต่างๆ ได้แก่ หลักการและทฤษฎีทางจิตวิทยาการศึกษา หลักการออกแบบ หลักการสื่อสาร และหลักการเรียนรู้   7)ครูผู้สอนมีการวางแผนและดำเนินการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย  (ชุดแบบฝึกทักษะ ชุดการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท 31102)   โดยพิจารณาให้สอดคล้องกับขั้นตอนต่างๆ  มีหลักการดำเนินงาน หรือกำหนดขั้นตอนการดำเนินงาน และการดำเนินงานตามแผนที่ได้วางไว้  8)ครูผู้สอนได้ตรวจสอบคุณภาพวิธีการของนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้  วิชาภาษาไทย (ชุดแบบฝึกทักษะ ชุดการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท 31102)   เพื่อให้มีประสิทธิภาพ มีคุณภาพมีมาตรฐานที่เชื่อถือได้ และตรงตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งได้ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขนวัตกรรมชุดแบบฝึกทักษะ  ชุดการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท 31102    ที่พัฒนาออกมาให้เป็นที่ยอมรับด้วยการตรวจสอบคุณภาพและความสอดคล้องกับการนำนวัตกรรมการเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นไปใช้งานจริง  และ 9)เมื่อดำเนินการเสร็จสิ้นทุกขั้นตอนแล้ว ผลการวิจัยพบว่าครูผู้สอนมีการสรุปและประเมินผลการพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย (ชุดแบบฝึกทักษะ ชุดการเขียนเชิงสร้างสรรค์ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน รหัสวิชา ท 31102)  จำนวน 7 เล่ม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่4  เพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณานำนวัตกรรมการเรียนรู้มาใช้ โดยมีหลักการพิจารณา 4 ประการ คือ มีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล มีความประหยัด และมีคุณลักษณะที่ดี   และผลจากการวัดเจตคติในการเรียนวิชาภาษาไทย  ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่  4  พบว่า นักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนวิชาภาษาไทยในระดับสูงทุกด้าน  ซึ่งด้านที่สูงที่สุดคือ  ด้านผลจากการเรียนวิชาภาษาไทย รองลงมาคือ ด้านเจตคติต่อครูผู้สอนวิชาภาษาไทย  และสุดท้ายคือด้านเจตคติที่มีต่อวิชาภาษาไทย


คำสำคัญ : แนวทาง,นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้วิชาภาษาไทย,เจตคติของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4


 

Article Details

How to Cite
Sangsuk, W., & Termtachatipongsa, P. . (2020). METHOD OF TEACHER TO DEVELOP INSTRUCTIONAL INNOVATION IN THAI LANGUAGE FOR GRADE 10 STUDENTS. Journal of Graduate MCU KhonKaen Campus, 7(3), 148–174. Retrieved from https://so02.tci-thaijo.org/index.php/jg-mcukk/article/view/242156
Section
Research Article