ความแพร่หลายของขนมและเครื่องดื่มที่ทำจากมัทฉะ

บทคัดย่อ

ในหลายปีมานี้ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่ใช้มัทฉะ (抹茶：Matcha) เป็นวัตถุดิบที่ได้รับมีความนิยมในญี่ปุ่นและยังมีความแพร่หลายในต่างประเทศ ในบทความนี้จะศึกษาว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร  มีจุดเริ่มต้นเมื่อใด จากการศึกษาพบว่าปัจจัยที่ทำให้ขนมหวานและเครื่องดื่มที่ทำจากมัทฉะเป็นที่นิยมทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศนั้นเกิดจากวัฒนธรรมอาหารขนมหวานญี่ปุ่นหรือเรียกอีกอย่างว่า วะกะชิ (和菓子：wagashi) ที่ทำจากมัทฉะซึ่งมีประวัติมายาวนาน และมีการเริ่มทำขนมแบบตะวันตกในญี่ปุ่นซึ่งมีการผลิตซอฟต์ครีมมัทฉะขึ้นเป็นครั้งแรกในปี ค.ศ. 1958 ลำดับต่อมาเกิดจากผู้ผลิตขนมรายใหญ่ของญี่ปุ่นได้เริ่มใช้มัทฉะในการผลิตและขายในจำนวนมากทั่วประเทศ มีการส่งออกไปยังต่างประเทศ และบริษัทขนาดใหญ่ของต่างประเทศอย่างเช่น Haagen-Dazs ได้ผลิตไอศกรีมแบบถ้วยรสมัทฉะในปี ค.ศ. 1996 และลำดับสุดท้ายเกิดจากการใช้นโยบาย Cool Japan ผลักดันวงการอาหารญี่ปุ่น รวมถึงขนมและเครื่องดื่มที่ทำจากมัทฉะทำให้เป็น Soft Power ของญี่ปุ่น มีร้าน Cafe ที่ใช้มัทฉะสร้างเมนูทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติที่ชื่นชอบขนมและเครื่องดื่มที่ทำจากมัทฉะที่มาญี่ปุ่นเพื่อสัมผัสวัฒนธรรมด้วยตนเอง ทั้งนี้เพื่อเข้าใจถึงการแพร่หลายของขนมและเครื่องดื่มที่ทำจากมัทฉะจากต่างประเทศ จึงได้ทำการวิเคราะห์กลยุทธ์การตลาดของตราสินค้าใหญ่ 3 ตราสินค้าด้วยกันคือ ไอศกรีมมัทฉะของ Haagen-Dazs อุจิ มัทฉะ Kitkat และมัทฉะลาเต้ของ Starbucks พบว่าทั้ง 3 ตราสินค้าแม้จะมีกลยุทธ์ที่แตกต่างกัน แต่ต่างมีส่วนทำให้ขนมและเครื่องดื่มที่ทำจากมัทฉะมีความแพร่หลาย