การออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกที่สะท้อนอัตลักษณ์สักขาลาย กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท จังหวัดกาฬสินธุ์
คำสำคัญ:
ของที่ระลึก, อัตลักษณ์, สักขาลาย, กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไทบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตลักษณ์สักขาลาย และออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึก ที่สะท้อนอัตลักษณ์สักขาลาย กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท จังหวัดกาฬสินธุ์ ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methods Research) เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารและข้อมูลภาคสนาม จากการศึกษาพบว่า อัตลักษณ์สักขาลาย กลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท ที่พบในตำบลโพน อำเภอคําม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ สามารถจำแนกอัตลักษณ์ได้ 2 ด้าน ได้แก่ อัตลักษณ์ปัจเจก และอัตลักษณ์ร่วม โดยอัตลักษณ์ปัจเจก คือ ลักษณะของลวดลายในการสักของแต่ละบุคคลมีความคล้ายและใกล้เคียงกัน มี 10 ลวดลาย ได้แก่ ลายมอ, ลายก้อนหิน ลายกรอบ ลายดอกบัว ลายดอกบัวเครือ ลายแข่วหมาตาย ลายใบมะขาม ลายคีมตัดหมาก ลายกากบาท และลายขีด ส่วนอัตลักษณ์ร่วม คือ มีรูปแบบและความเชื่อที่มีร่วมกันของผู้ถูกสัก คือ 1) รูปแบบของสักขาลาย เป็นการสักรอบต้นขาจนถึงหัวเข่า มีลักษณะคล้ายกางเกง 2) ความเชื่อในการสัก ได้แก่ การสักขาลายเป็นประเพณีนิยม การสักขาลายเป็นการแสดงถึงความเป็นกลุ่มเดียวกัน การสักขาลายเป็นการแสดงถึงความเป็นลูกผู้ชาย และการสักขาลายมีผลต่อการเลือกคูครอง ทั้งนี้จากการวิเคราะห์ข้อมูลความต้องการของผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกจากผู้บริโภค พบว่า ลวดลายที่นิยมนำมาประยุกต์ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกมากที่สุด คือ 1) ลายมอม 2) ลายแข่วหมาตาย 3) ลายกรอบ 4) ลายก้อนหิน และ 5) ลายใบไม้ นอกจากนี้ผลความพึงพอใจโดยรวมของกลุ่มเป้าหมายจำนวน 50 คน ที่มีต่อเครื่องประดับที่ออกแบบ อยู่ในระดับมาก (ค่าเฉลี่ย 3.87)
References
ธีระชัย สุขสด. (2544). การออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม. กรุงเทพฯ: โอเดียนสโตร์.
ธานินทร์ ศิลป์จารุ. (2552). การวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติด้วย SPSS. (พิมพ์ครั้งที่ 10). กรุงเทพฯ: บิสซิเนสอาร์แอนด์ดี.
วราภรณ์ คีรีพัฒน์. (2528). การสอนวิทยาศาสตร์. ปัตตานี: มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์.
ศุภรัตน์ แสงฉัตรแก้ว. (2560). สักขาลาย: อัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์ผู้ไท. วารสารศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, 21(2), หน้า 248-273.
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีทีบี. (2566). ttb analytics คาดรายได้การท่องเที่ยวไทยปี 2566 เพิ่มขึ้น 1 ล้านล้านบาทจากปีก่อน พุ่งแตะระดับ 2.25 ล้านล้านบาท. สืบค้นจาก https://www.ttbbank.com/th/analytics/business-industry/tourism-healthcare/20230112-ttb-analytics-thai-tourism-outlook2023
สมเกียรติ ชัยพิบูลย์. (2551). การจัดการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม กรณีศึกษาศักยภาพการท่องเที่ยวชุมชนนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร. กำแพงเพชร: มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
สุภางค์ จันทวานิช. (2551). วิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ (พิมพ์ครั้งที่ 16). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2560). แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 14 พ.ศ. 2566-2570. กรุงเทพฯ: สำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน). (2565). แผนปฏิบัติการ ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570). สืบค้นจาก https://www.cea.or.th/backendservice/3dflipbook?url=https%3A%2F%2Fwww.cea.or.th%2Fstorage%2Fapp%2Fmedia%2FITA_2566%2Fo4_CEA_Strategic_Plan_2566_2570_Apr2023.pdf
อรพินท์ บุญสิน. (2557). แนวทางการสร้างผลลัพธ์การผลิตสินค้าเชิงสร้างสรรค์สำหรับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในภาคอุตสาหกรรม. วารสารการจัดการมหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์, 3(3), หน้า 22-31.
อภิญญา เฟื่องฟูสกุล. (2546). อัตลักษณ์ การทบทวนทฤษฎีและกรอบแนวคิด. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
Special Report. (2566). เจาะ 5 เทรนด์การท่องเที่ยว 2566 สร้างรายได้กระจายลงชุมชน. สืบค้นจาก https://aec10news.com/contents/special-report/200360/
SUN YING XIN. (2559). การออกแบบผลิตภัณฑ์ของที่ระลึกสะท้อนเอกลักษณ์พื้นถิ่น ชุด ศิลปะเต๋าแห่งเขาเหลาซาน. วารสารศิลปกรรมบูรพา, 19(1), หน้า 133-148.
Y.na nagara. (2007). แนวคิดของ Deconstruction. สืบค้นจาก https://yong-book2.blogspot.com/2007/03/deconstruction.html
Downloads
เผยแพร่แล้ว
How to Cite
ฉบับ
บท
License
Copyright (c) 2023 มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
This work is licensed under a Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
บทความที่ได้รับการตีพิมพ์เป็นลิขสิทธิ์ของ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
- บทความในวารสารวิชาการมนุษย์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี เป็นความคิดเห็นของผู้นิพนธ์ ไม่ใช่ความคิดเห็นของกองบรรณาธิการ และไม่ใช่ความรับผิดชอบของกองบรรณาธิการและ/หรือของคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี
- กองบรรณาธิการไม่สงวนสิทธิ์ในการคัดลอก แต่ให้อ้างอิงแสดงที่มา
- บทความที่ได้รับตีพิมพ์จะมีการตรวจความถูกต้องเหมาะสมจากกองบรรณาธิการและผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาที่เกี่ยวข้อง (peer review) จำนวน 3 คน โดยผู้ทรงคุณวุฒิจะไม่ทราบผู้นิพนธ์ และผู้นิพนธ์ไม่ทราบชื่อผู้ทรงคุณวุฒิ (double-blind peer review)