รูปแบบการบริหารจัดการศึกษา SK1 SAFETY MODEL “ผ่านระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน (S-CARE)”
Main Article Content
บทคัดย่อ
บทความวิชาการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา สร้างองค์ความรู้ และพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการศึกษาSK1 SAFETY MODEL“ผ่านระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน (S-CARE)” ของสถานศึกษา และหน่วยงานระดับสำนักงานเขตพื้นที่ ระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมีเพื่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ และเพื่อให้ผู้เรียนการได้รับการปกป้องคุ้มครองให้เกิดความปลอดภัย สถานศึกษาที่มีความปลอดภัยนั้น ผู้ปกครองก็จะเชื่อมั่นว่าผู้เรียนจะได้รับความรู้ทางสติปัญญา อารมณ์ อย่างอบอุ่น และปลอดภัย จนสามารถเพิ่มผลสำเร็จของงานตามเป้าหมายได้ ซึ่งมีเป้าหมายหลักเดียวกัน คือ คุณภาพการศึกษาและตัวบ่งชี้คุณภาพที่สำคัญ คือ คุณภาพของนักเรียนหรือประสิทธิผลการเรียนรู้ของนักเรียน รูปแบบการบริหารจัดการศึกษาSK1 SAFETY MODEL“ผ่านระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน (S-CARE)” ได้ช่วยให้หน่วยงาน สถานศึกษา ได้มีรูปแบบที่เป็นที่น่าเชื่อถือ เป็นที่ยอมรับ และสามารถนำไปใช้ได้ในสถานศึกษา หน่วยงานที่มีบริบทใกล้เคียงกันได้ จากนวัตกรรมนี้ทำให้หน่วยงาน มีการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอจนกลายเป็นวัฒนธรรมองค์กรอันจะส่งผลให้คุณภาพของสถานศึกษา ผลการเรียนรู้ของผู้เรียนพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และได้ช่วยเหลือสนับสนุนให้กระบวนการบริหาร และกระบวนการเรียนการสอนในสังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 ให้มีคุณภาพถึงระดับที่พึงประสงค์อย่างรอบด้านทั้งนักเรียน บุคคล และหน่วยงาน ที่ทันต่อความเปลี่ยนแปลงของสังคม ความเจริญก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ผลการประเมินด้านต่าง ๆ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2 มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับและเป็นไปตามเป้าหมาย
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ข้อมูลภาพ เสียง วิดีโอ และข้อความที่ปรากฎบนเว็บไซต์นี้ ผู้นำไปใช้จะถูกอนุญาตให้นำไปใช้ได้ โดยจะต้องอ้างอิงแหล่งที่มา จะต้องไม่นำไปใช้เพื่อการค้า และจะต้องไม่ดัดแปลง (CC-BY-NC-ND)
เอกสารอ้างอิง
ญาดา สังขภิญโญ. (2565). รูปแบบการดำเนินงานตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้แนวคิดวงจร
คุณภาพเดมมิ่งสำหรับสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเลย เขต 1 [วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บุญชม ศรีสะอาด และคณะ. (2551). พื้นฐานการวิจัยการศึกษา (พิมพ์ครั้งที่ 4). สำนักพิมพ์ประสานการพิมพ์.
บุญชม ศรีสะอาด. (2560). การวิจัยเบื้องต้น (พิมพ์ครั้งที่ 10). สำนักพิมพ์สุวีริยาสาส์น.
ประสิทธิ์ สุวรรณรักษ์. (2555). ระเบียบวิธีวิจัยทางพฤติกรรมศาสตร์และสังคมศาสตร์ (พิมพ์ครั้งที่10). สำนักพิมพ์คณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์.
ปุญชรัศมิ์ พันธุวัฒน์. (2562). การพัฒนารูปแบบการบริหารจัดการงานคัดกรองนักเรียนของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนพร้าววิทยาคม จังหวัดเชียงใหม่. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร, 21(2), 176-187.
พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542. (2542, สิงหาคม 19). ราชกิจจานุเบกษา, 116(74 ก), 1-23.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2556). คู่มือข้อปฏิบัติและมาตรการในการรักษาความปลอดภัยในสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ. กระทรวงศึกษาธิการ.
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ. (2556) แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบราชการไทย พ.ศ.2556 - พ.ศ.2561. สำนักพิพม์บริษัท วิชั่น พริ้นท์ แอนด์ มีเดีย.
อดิศร ปานธรรม. (2561). การพัฒนารูปแบบการจัดการด้านความปลอดภัยแบบมีส่วนร่วมในสถามศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นพื้นฐาน. [วิทยานิพนธ์ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต]. มหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์.
อภิรมย์ สินชุม. (2565). การพัฒนารูปแบบการบริหารแบบมีส่วนร่วมเพื่อเป็นสถานศึกษาปลอดยาเสพติดและอบายมุข โรงเรียนพิมายดำรงวิทยาคม. วารสารสมาคมพัฒนาวิชาชีพการบริหารการศึกษาแห่งประเทศไทย, 4(4), 1–14. https://so04.tci-thaijo.org/index.php/JAPDEAT/article/view/260773
Flaherty, L. T. (2015). Safety assessment in schools: Beyond risk: The role of child psychiatrists and other mental health professionals. Child and Adolescent Psychiatric Clinics of North America, 24(2), 277–289.