จากจิตรกรรมฝาผนัง สู่การสร้างสรรค์ตุงคร่าวธรรม วัดบวกครกหลวง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อการคงอยู่ของงานตั้งธรรมหลวง

Main Article Content

ฐาปกรณ์ เครือระยา

บทคัดย่อ

ตุงคร่าวธรรม หนึ่งในงานพุทธศิลป์ล้านนาที่ว่าด้วยเรื่องงานจิตรกรรมบนผืนผ้า เล่าเรื่องเวสสันดรชาดก สร้างขึ้นเพื่อใช้ในงานประเพณีตั้งธรรมหลวง ซึ่งจัดขึ้นในวันยี่เป็ง หรือช่วงเดือนพฤศจิกายน – มกราคม ของทุกปี โดยจะเป็นการเทศน์เรื่องเวสสันดรชาดก ซึ่งภาพเหล่านี้จะถูกนำไปแขวนไว้ในวิหารเพื่อให้ผู้ฟังเทศน์ได้ซึมซับภาพไปพร้อมกับการฟังเทศน์ โดยคนล้านนาเชื่อว่าใครได้ฟังเทศน์มหาชาติจบทั้ง 13 กัณฑ์จะได้ขึ้นสวรรค์
ชุมชนบวกครกหลวงเป็นอีกหนึ่งวัดที่ในอดีตเคยปรากฏภาพตุงคร่าวธรรม แต่เมื่อ 50 ที่ผ่านมา ภาพตุงคร่าวธรรมชุดดังกล่าวได้หายไปจากชุมชน จึงทำให้องค์ประกอบของพิธีกรรมนี้ขาดหายไป คนในชุมชนมีความประสงค์ที่จะต้องการจัดสร้างภาพตุงคร่าวธรรมชุดใหม่ขึ้นมาทดแทนชุดเดิมที่หายไป จึงนำไปสู่การศึกษารูปแบบจิตรกรรมตุงคร่าวธรรมจากแหล่งต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนองค์ความรู้เรื่องรูปแบบ สัดส่วน โครงสร้าง การเล่าเรื่อง จากภาพตุงคร่าวธรรมในกลุ่มตัวอย่างที่ได้คัดเลือกไว้ 5 ชุมชน คือ 1. วัดลำปางกลางตะวันออก จังหวัดลำปาง 2. วัดบ้านเอื้อม จังหวัดลำปาง 3. วัดบ้านสัก จังหวัดลำปาง 4. วัดปงสนุกเหนือ จังหวัดลำปาง และ 5. วัดสบลี จังหวัดลำปาง ใช้เป็นแนวทางการวางโครงสร้างของชุดภาพตามแบบแผนส่วนใหญ่ กรณีศึกษาภาพตุงคร่าวธรรมในครั้งนี้ เพื่อนำไปเป็นแนวทางการสร้างสรรค์งานตุงคร่าวธรรมชุดใหม่ให้กับชุมชนบวกครกหลวง
นอกจากนี้ยังได้ศึกษาตัวภาพจากงานจิตรกรรมฝาผนังวัดบวกครกหลวง เพื่อทำงานศิลปะเชิงสร้างสรรค์ วาดภาพเวสสันดรชาดกบนผืนผ้า จำนวน 15 ผืน โดยการนำองค์ประกอบการจัดวางโครงสร้างภาพมาจากตุงคร่าวธรรมวัดบ้านเอื้อม วัดบ้านสักและวัดปงสนุกเหนือมาปรับใช้ แล้วสร้างตัวละครใหม่ในท้องเรื่องเวสสันดรชาดกโดยนำเอาภาพบุคคล สถานที่ งานสถาปัตยกรรม เครื่องใช้ไม้สอย สัตว์และต้นไม้ จากจิตรกรรมฝาผนังวัดบวกครกหลวงมาจัดวางองค์ประกอบใหม่จนได้ตุงคร่าวธรรม เพื่อเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของชุมชนต่อไป
การสร้างภาพตุงคร่าวธรรมขึ้นมาใหม่เพื่อทดแทนของเดิม จะใช้โครงสร้างเดียวกันกับรูปแบบตุงคร่าวธรรมทั่วไปที่พบในพื้นที่ล้านนา ทั้งการตัดตอนการเล่าเรื่องตัวละครในฉากต่าง ๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งอัตลักษณ์งานจิตรกรรมสกุลช่างไทใหญ่ของชุมชน ซึ่งวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้คนในชุมชนหันกลับมาดูแลรักษามรดกทางวัฒนธรรมชุมชน ซึ่งสามารถให้ผู้สนใจเยาวชนรุ่นใหม่เข้ามาศึกษาเรียนรู้ซึมซับกับมรดกทางวัฒนธรรม เป็นการส่งเสริมประเพณีท้องถิ่นและที่สำคัญคือคนในชุมชนได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสรรค์งานประวัติศาสตร์ศิลป์ในครั้งนี้ ไว้กับพุทธศาสนาสืบไป

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Kruaraya, T. (2016). Kānsưksā Phāp Tung Khāo Tham Phān Ngān Bō̜rikān Wichākān Wādūai Kānsamrūat Læ ʻAnurak Sō̜msǣm Mō̜radok Thāng Watthanatham Hǣng Nakhō̜n Lampāng [The Study of Tung Painting Vessantara Jakata Tale through Academic Service in Survey and conservation on Cultural Heritage of Na Khon Lampang]. Journal of Liberal Art, Maejo Univresity, 4(1), 27-43.

Northern Archaeological Center, Faculty of Social Sciences, Chiang Mai University. (2012). Lānnā Khunkhā Satthā Læ Kānʻanurak [Lanna Buddhist Arts, Values, Faith and Conservation]. Chiang Mai: Wanida Printing.

Pantasueb, S. (2018). Phonngā Nawičhai Čhittrakam Phā Phrabot Wat ČHarœ̄n Mư̄ang Tambon Čharœ̄n Mư̄ang ʻamphœ̄ Phān ČHangwat Chīang Rāi [Research results for Phra Bot cloth painting Wat Charoen Muang Charoen Mueang Subdistrict, Phan District Chiang Rai]. Research report, Faculty of Fine Arts, Chiang Mai University.

Simatrang, S. (1983). khrōngsāng čhittrakam fā phanang lānnā [The Structure of Lanna Mural Paintings]. Bangkok: P.A.T.

Tha kœt, T. (1992). Phonngā NawičHai Phrabot Thī Phop Nai Khēt ʻamphœ̄ Wang Nư̄a ʻamphœ̄ Čhǣ Hom Læ Thīwat Sop Lī Tambon Čhǣ Sō̜ ʻon Kingʻamphœ̄ Mư̄ang Pān ČHangwat Lampāng [Research results for Phra Bot cloth painting in Wang Nuea District, Chae Hom District and at Sobli Temple. Chae Son Subdistrict, Mueang Pan District, Lampang Province]. Research report, Faculty of Fine Arts, Chiang Mai University.