การประยุกต์สุนทรียศาสตร์แบบนีโอบาโรกเพื่อสร้างแอนิเมชันเล่าเรื่องเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังล้านนาสะท้อนประเด็นของการผลิตซ้ำวัฒนธรรม

Main Article Content

กรกฎ ใจรักษ์

บทคัดย่อ

การวิจัยสร้างสรรค์เรื่องการประยุกต์สุนทรียศาสตร์แบบนีโอบาโรกเพื่อสร้างแอนิเมชันเล่าเรื่องเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังล้านนาสะท้อนประเด็นของการผลิตซ้ำวัฒนธรรม มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยคือ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์สุนทรียศาสตร์แบบนีโอบาโรกในสื่อบันเทิงสมัยใหม่ 2) เพื่อทดลองปฏิบัติการทางสุนทรียะประยุกต์สุนทรียศาสตร์แบบนีโอบาโรกสร้างแอนิเมชันเล่าเรื่องเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังล้านนาสะท้อนประเด็นของการผลิตซ้ำวัฒนธรรม 3) เพื่อนำเสนอผลงานแอนิเมชันเล่าเรื่องเกี่ยวกับจิตรกรรมฝาผนังล้านนาสะท้อนประเด็นของการผลิตซ้ำวัฒนธรรมในรูปแบบนิทรรศการศิลปะ


การสร้างสรรค์ผลงานครั้งนี้ผู้เขียนสรุปมุมมองทางความคิดเกี่ยวกับประเด็นการผลิตซ้ำทางวัฒนธรรมเพื่อถ่ายทอดผลงานตามแนวทางสุนทรียศาสตร์แบบนีโอบาโรกที่มุ่งสร้างโลกจำลองที่ยิ่งใหญ่อลังการ, ซ่อนจุดเริ่มต้นและจุดจบของเรื่อง, การอ้างอิงเนื้อหาจากแหล่งอื่นและต้นฉบับของตนเอง, การนำเสนออารมณ์ที่ไม่สามารถบรรยายได้ และการมีจุดศูนย์กลางที่เคลื่อนตามผู้ชม กลวิธีเหล่านี้ได้ถูกสังเคราะห์เป็นแนวทางสำหรับการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะแอนิเมชันที่สะท้อนแนวคิดส่วนตัวของผู้เขียนต่อประเด็นการผลิตซ้ำทางวัฒนธรรม


ข้อค้นพบภาคเอกสารนำไปสู่การแตกประเด็นทางความคิด กำหนดแนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงาน “แอนิเมชันอินสตอลเลชัน” สร้างให้เกิดการเคลื่อนไหวหลากหลายลักษณะอย่างสร้างสรรค์ ขยายผัสสะ การรับรู้ของผู้ชมให้ได้สัมผัสรับรู้ถึงการเคลื่อนไหวบนพื้นผิว และพื้นที่จริง สร้างการเคลื่อนไหวให้ขยายจนล้นเกินซึ่งเป็นแบบแผนสำคัญในศิลปะแบบนีโอบาโรก ผลลัพธ์ที่ได้จากการสร้างสรรค์ผลงานในครั้งนี้เป็นไปตามโจทย์วัตถุประสงค์ที่          ตั้งไว้


สำหรับประโยชน์ทางวิชาการนั้นการสร้างสรรค์ผลงานคอมพิวเตอร์แอนิเมชันแบบ 3 มิติ ที่มีความยาวถึง 19 นาที สำเร็จจะเป็นแรงผลักดันที่เสริมสร้างความมั่นใจกับผู้เขียนในการที่จะพัฒนาผลงานชิ้นต่อไปในฐานะของผู้สร้างสรรค์แอนิเมชันที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับประเด็นทางสังคม เอกสารในส่วนของการทบทวนวรรณกรรม และ            การวิเคราะห์ผลงาน คืองานเขียนทางวิชาการที่ได้สรุปสาระให้ง่ายแก่ผู้สนใจที่จะเป็นแนวทางให้ค้นคว้าเพิ่มเติมเกี่ยวกับศิลปะภาพเคลื่อนไหวในรูปแบบนีโอบาโรก และเรื่องเล่าเชิงสร้างสรรค์แบบอื่น ๆ

Article Details

ประเภทบทความ
บทความวิจัย

เอกสารอ้างอิง

Careri, G. (2019). Caravaggio Bernini Early Baroque in Rome: Bernini and Caravaggio the Body of the Soul. New York: Prestel.

Charoensin-o-larn, C. (2002). Sanwitthayā Khrōngsāngniyom Langkhrōngsāngniyom kapkānsưksāratthasāt [Semiology, structuralism, post-structuralism and the study of political science]. Bangkok: Vibhasa.

Ecstasy of Saint Teresa. (n.d.). Wikipedia. https://en.wikipedia.org/wiki/Ecstasy_of_Saint_Teresa

Egginton, W. (2010). The Theater of Truth the Ideology of Neo Baroque Aesthetics. California: Stanford University.

Kaewpenthong, C. (2013). The analytical comparative study of mural paintings at Wat Phumin and Wat Nong Bua Nan province [Master’s thesis]. Silpakorn University.

Lamarre, T. (2009). The anime machine: a media theory of animation. London: The University of Minnesota.

Ndalianis, A. (2004). Neo-Baroque Aesthetics and Contemporary Entertainment. London: Massachusetts Institute of Technology.

Pamakho, A. (2020). Yūdūaikan Phư̄nthī Thēknōlōyī lækhwāmpenʻư̄n: Manut ʻǢnalo̜k Nai Lōkdičhithan Kānyūrūamkan khō̜ng Manut kapwitthayākān Nai Phāpyon Chut Westworld [Coexistence, Space, Technology, and Others: Digital Human Anatomy Coexistence of Man and Science in the Westworld series]. Bangkok: Siamparitas.

Saint Francis of Assisi in Ecstasy. (n.d.). Wikipedia. https://en.wikipedia.org/wiki/Saint_Francis_of_Assisi_in_Ecstasy_(Caravaggio)

Swoboda, G. (2019). Caravaggio Bernini Early Baroque in Rome: Motion and Emotion Art in the Age of the Affects. New York: Preste.