การพัฒนาแบบวัดสมรรถนะสากลของนิสิตครู
คำสำคัญ:
แบบวัด, เกณฑ์ปกติระดับท้องถิ่น, สมรรถนะสากลบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) สร้างและตรวจสอบคุณภาพแบบวัดสมรรถนะสากลของนิสิตครูด้านความตรง ประกอบด้วย ความตรงเชิงเนื้อหาและความตรงเชิงโครงสร้าง ด้านอำนาจจำแนก และด้านความเที่ยง 2) พัฒนาเกณฑ์ปกติระดับท้องถิ่นของแบบวัดสมรรถนะสากลของนิสิตครู และ 3) เปรียบเทียบสมรรถนะสากลของนิสิตครูตามชั้นปี กลุ่มตัวอย่าง คือ นิสิตปริญญาตรี ชั้นปีที่ 1-4 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จำนวน 740 คน ซึ่งได้จากการสุ่มแบบหลายขั้นตอน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบวัดสมรรถนะสากลของนิสิตครู วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เปอร์เซ็นไทล์ คะแนนมาตรฐานทีแบบแจกแจงปกติ และการวิเคราะห์องค์ประกอบเชิงยืนยัน
ผลการวิจัย พบว่า
- ด้านความตรงเชิงเนื้อหา มีค่า IOC อยู่ระหว่าง 0.71-1.00 ด้านความรู้ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.40-0.80 มีค่าความเที่ยง เท่ากับ 0.703 ด้านทักษะ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.27-0.80 มีค่าความเที่ยง เท่ากับ 0.825 ด้านคุณลักษณะ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.45-0.75 มีค่าความเที่ยง เท่ากับ 0.937 และโมเดลของแบบวัดมีความตรงเชิงโครงสร้าง
- เกณฑ์ปกติระดับท้องถิ่น แบ่งออกเป็น 5 ระดับ ได้แก่ สมรรถนะสากลระดับสูงมาก เมื่อมีคะแนนตั้งแต่ 83 คะแนนขึ้นไป (≥T65), สมรรถนะสากลระดับสูง เมื่อมีคะแนนตั้งแต่ 72-82 คะแนน (T55-T64), สมรรถนะสากลระดับปานกลาง เมื่อมีคะแนนตั้งแต่ 61-71 คะแนน (T45-T54), สมรรถนะสากลระดับต่ำ เมื่อมีคะแนนตั้งแต่ 50-60 คะแนน (T35 -T44) และสมรรถนะสากลระดับต่ำมาก เมื่อมีคะแนนน้อยกว่า 50 คะแนน (<T35)
- ผลการเปรียบเทียบสมรรถนะสากลของนิสิตครู พบว่า คะแนนสมรรถนะสากลจำแนกนิสิตครูตามชั้นปีไม่แตกต่างกัน
เอกสารอ้างอิง
วิทยานิพนธ์ ปร.ด. (สาขาวิชาวิทยาการทางการศึกษาและการจัดการเรียนรู้แขนงวิชาการศึกษาและการจัดการเรียนรู้เพื่อการพัฒนา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
2. เกียรติสุดา ศรีสุข. (2552). ระเบียบวิธีวิจัย. เชียงใหม่: โรงพิมพ์ครองช่าง.
3. จริยา เสถบุตร. (2552). การวัดและการประเมินผลทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยศรี นครินทรวิโรฒ ประสานมิตร.
4. จิราภรณ์ สาลีสังข์ .(2556). แนวทางการพัฒนาสมรรถนะวิศวกรสู่สมรรถนะสากลเพื่อรองรับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน. วิทยานิพนธ์ บธ.ม. (สาขาวิชาบริหารธุรกิจสำหรับผู้บริหาร)มหาวิทยาลัยบูรพา.
5. ชวาล แพรัตกุล. (2520). เทคนิคการวัด. (พิมพ์ครั้งที่ 2). กรุงเทพฯ: วัฒนาพานิช.
6. นงลักษณ์ ใจฉลาด. (2562). องค์ประกอบและกิจกรรมตัวบ่งชี้พัฒนาคุณลักษณะที่พึงประสงค์ของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. วารสารครุพิบูล, 7(1), 132-144
7. ปัณณวิชญ์ ใบกุหลาบ. (2558). การศึกษาคะแนนพัฒนาการความสามารถด้านการวิจัยของนักศึกษาครู มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม จังหวัดพิษณุโลก. วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ บัณฑิตวิทยาลัย มรพส., 9(2), 29-50.
8. ไพฑูรย์ สินลารัตน์. (2557). เติบโตเต็มตามศักยภาพสู่ศตวรรษที่ 21 ของการศึกษาไทย. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
9. ยุทธ ไกยวรรณ์. (2550). การสร้างเครื่องมือวิจัย. กรุงเทพฯ: ศูนย์สื่อเสริมกรุงเทพ.
10. รังสรรค์ มณีเล็กและคณะ. (2545). การพัฒนาเครื่องมือสำหรับการประเมินการศึกษา. นนทบุรี: มหาวิทยาลัย สุโขทัยธรรมาธิราช.
11. รัฐชญา ล่องเซ่ง. (2560). การพัฒนาเครื่องมือวัดความรอบรู้ด้านพฤติกรรมสุขภาพของผู้สูงอายุในจังหวัดสงขลา. วารสารครุพิบูล, 4(2), 93-111.
12. ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2543). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 3). กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
13. ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2547). การวัดด้านจิตพิสัย. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
14. วุฒิชาติ สุนทรสมัย และเกศริน อิ่มเล็ก. (2550). การศึกษาคุณภาพการบริการที่พักแรมแบบโฮมสเตย์ของภาคตะวันออก: การพัฒนาศักยภาพความเข้มแข็งความยั่งยืนขอการท่องเที่ยวเชิงนิเวศและประกอบธุรกิจด้านท่องเที่ยว. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ.
15. สิริวรรณ ศรีพหล. (2536). โครงการวิจัยเรื่องการศึกษาสภาพทั่วไปของการจัดการศึกษาด้านสกลทรรศน์ศึกษาในประเทศไทย. กรุงเทพฯ: สถาบันวิจัยและพัฒนามหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
16. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ. (2559). สรุปสาระสำคัญแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่สิบสอง พ.ศ. 2560-2564. กรุงเทพฯ: สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี.
17. สมบูรณ์ ชิตพงษ์. (2535). การสร้างการพัฒนาเครื่องมือวัดผลด้านพุทธิพิสัย. นนทบุรี: มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.
18. สมสมร เรืองวรบูรณ์ และสุชาดา ปราบมีชัย. (2559). สมรรถนะสากลของวิชาชีพพยาบาล: สาระที่จำเป็น. วารสารมหาวิทยาลัยนครพนม ฉบับพิเศษการประชุมพยาบาลครั้งที่ 25, ม.ป.ป.(กุมภาพันธ์), 262-268.
19. อนุ เจริญวงศ์ระยับ. (2549). การแสดงหลักฐานความเที่ยงตรงเชิงโครงสร้างของแบบประเมินการสอนโดยผู้เรียนของมาร์ชด้วยการประยุกต์ใช้วิธีการวิเคราะห์กลุ่มพหุ. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. (สาขาการวัดผลการศึกษา) มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.
20. อัญชลี สารรัตนะ และคณะ. (2558). โครงการสมรรถนะสากลของนักศึกษาสาขาทันตแพทย์ศาสตร์ พยาบาลศาสตร์และสาขาวิศวกรรมศาสตร์. กรุงเทพฯ : สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และสำนักงานงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.).
21. เอนก พ. อนุกูลบุตร. (2548). การวัดและประเมินผลการศึกษา. กรุงเทพฯ: มหาวิทยาลัยรามคำแหง.
22. Hair, J. et al. (2010). Multivariate data analysis (7th ed.). Upper saddleRiver, New Jersey: Pearson Education International.
23. Hunter. (2004). Knowledge Skills Attitudes and Experiences Necessary to Become Globally Competent. Lehigh University.
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
ลิขสิทธิ์ (c) 2022 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
ลิขสิทธิ์เป็นของคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม