การพัฒนาความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ สำหรับนักศึกษาโปรแกรมวิชาการประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร
Main Article Content
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ สำหรับนักศึกษาโปรแกรมวิชาการประถมศึกษา กับเกณฑ์ ร้อยละ 80 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อกิจกรรมการพัฒนาความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ ได้แก่ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 โปรแกรมวิชาการประถมศึกษา คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 43 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการพัฒนาความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ 2) แบบประเมินความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อกิจกรรมการพัฒนาความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และทดสอบค่าเฉลี่ยโดยใช้ t-test (Dependent Sample) ผลการวิจัยพบว่า
1) ผลการประเมินความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติ สำหรับนักศึกษาโปรแกรมวิชาการประถมศึกษา พบว่า ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05 2) ผลการประเมินความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อกิจกรรมการพัฒนาความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ ด้วยกิจกรรมบทบาทสมมติมีความพึงใจอยู่ในระดับมาก
Downloads
Article Details

อนุญาตภายใต้เงื่อนไข Creative Commons Attribution-NonCommercial-NoDerivatives 4.0 International License.
เอกสารอ้างอิง
กาญจนา คุณารักษ์. (2558). การออกแบบการเรียนการสอน. นครปฐม: โรงพิมพ์มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตนครปฐม พระราชวังสนามจันทร์.
คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร. (2558). หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา (4 ปี) หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2562. กำแพงเพชร: คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร.
ไชยยศ ไพวิทยศิริธรรม. (2557). การวัดและประเมินผลการศึกษา. Educational Measurement and Evaluation: มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ณัฐชญา บุปผาชาติ. (2561). การใช้กิจกรรมบทบาทสมมติเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนยอแซฟอุปถัมป์อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม. การค้นคว้าอิสระหลักสูตรศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต (การสอนภาษาอังกฤษ). มหาวิทยาลัยศิลปากร.
ดารุณี ถาวรวัฒนะ, อเนชา เพียงทอง, เกรียงไกร รอดปัญญา และรัตนาภรณ์ ศรีพุ่มบาง. (2559). การพัฒนาทักษะการพูด ภาษาอังกฤษของนักศึกษาชั้นปีที่ 2 โดยใช้การสอนแบบบทบาทสมมติ. มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์: การประชุมวิชาการระดับชาติครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน.
นันทนิตย์ บุตรปาละ. (2563). การพัฒนาทักษะการฟัง-พูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารของนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏเลยโดยใช้สถานการณ์จำลอง. วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม, 14(1): 98 – 108.
บุญชม ศรีสะอาด. (2553). การวิจัยเบื้องต้น. กรุงเทพฯ: สุวีริยาสาส์น.
วิภาดา ยี่สุ่นแย้ม, รุ่งฟ้า กิติญาณุสันต์, และสิราวรรณ จรัสรวีวัฒน์. (2563). การเปรียบเทียบความสามารถในการฟัง-พูดภาษาอังกฤษ และความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างการใช้วิธีการจัดการเรียนรู้ตามแนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสารร่วมกับเทคนิคการตอบสนองด้วยท่าทาง (TPR) กับวิธีการจัดการเรียนรู้ตามปกติ. วารสารศิลปศาสตร์ราชมงคลสุวรรณภูมิ, 2(2): 403 – 414.
สถาบันภาษาอังกฤษ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน. (2558). คู่มือการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษแนวใหม่ตามกรอบอ้างอิงความสามารถทางภาษาของสหภาพยุโรป. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. (2551). ตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ: โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จำกัด.
สุมาลี ภัทรประภากร. (2542). หลักการสอนคริสเตียนศึกษา. แปลโดยพรรณี สุปรัชญาสกุล และคนอื่น ๆ. กรุงเทพฯ: ศูนย์ทีรันนัส.
อรุโณทัย กิตติธีระวัฒน์. (2551). การจัดกิจกรรมบทบาทสมมติเพื่อพัฒนาทักษะการพูดภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วิทยานิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในงานอาชีพ). มหาวิทยาลัยเชียงใหม่.
Nunan, D. (2003). Practical English Language Teaching. McGraw–Hill Education.