การจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ผู้แต่ง

  • ปิยวรรณ บัวพันธ์ คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม
  • เนตรชนก จันทร์สว่าง คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม

คำสำคัญ:

การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น, โมบายเลิร์นนิง, ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน, การคิดวิเคราะห์

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กับเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 2) เพื่อเปรียบเทียบการคิดวิเคราะห์ก่อนและหลังได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4  จำนวน 40 คน ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนกาฬสินธุ์พิทยาสรรพ์ ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่องการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม จำนวน 8 แผน รวม 14 ชั่วโมง ความเหมาะสมในระดับมาก ถึงมากที่สุด ( gif.latex?x\bar{} = 4.18-4.65) 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 25 ข้อ ค่าความยากอยู่ระหว่าง 0.55-0.80 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.31-0.79 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.98 และ 3) แบบวัดการคิดวิเคราะห์ แบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ ค่าความยาก 0.68 ถึง 0.80 ค่าอำนาจจำแนก 0.32 ถึง 0.82 และค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.93  วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ทดสอบสมมติฐานด้วยสถิติ One-sample t-test และ Dependent-sample t-test

ผลการวิจัยพบว่า 1) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning มีผลสัมฤทธิ์หลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 2) การคิดวิเคราะห์ของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning มีการคิดวิเคราะห์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

เอกสารอ้างอิง

กชกร สายสุวรรณ. (2555). การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้โดยบูรณาการโมบายเลิร์นนิงด้วยวิธีการแก้ปัญหาร่วมกันเพื่อส่งเสริมความใฝ่รู้สำหรับนักศึกษาปริญญาตรี [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย].

กนกพร สีแดง. (2563). การจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น ร่วมกับสื่อการสอนสมัยใหม่เพื่อพัฒนาการคิดวิเคราะห์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เซลล์และการทำงานของเซลล์. วารสารมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม, 14(1), 59-68.

จิตติมา ดมหอม. (2553). ผลของการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ต่อการพัฒนาแนวคิดและเจตคติต่อการเรียน เรื่อง เซลล์และการแบ่งเซลล์ ของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปี ที่ 4 [ปริญญาศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์].

ณัฐติญา บุญวิรัตน์, และ สมศักดิ์ บุญสาธร. (2561). การเรียนแบบสืบเสาะหาความรู้: แนวทางการสอนที่มีประสิทธิภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 และการศึกษา 4.0 ในประเทศไทย. วารสารรัฐศาสตร์และรัฐประศาสนศาสตร์, 9(1), 163-183.

นุชศรา ชุมมินทร์, และ สุภาพร พรไตร. (2560). การยกระดับความสามารถการคิดวิเคราะห์ด้วยการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะวิทยาศาสตร์. วารสารมนุษยศาสตรและสังคมศาสตร์, 5(2), 55-67.

ไพศาล วรคำ. (2566). การวิจัยทางการศึกษา. มหาสารคาม: ตักสิลาการพิมพ์.

มนัสนิต ใจดี, ชนัฎนภา พิทยานุรักษ์, และ วิมาน ใจดี. (2565). ผลการใช้ m-Learning วิชาเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ร่วมกับการเรียนรู้แบบปัญหาเป็นฐานเพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนสงวนหญิง. วารสารศึกษาศาสตร์ มมร., 10(1), 308-319.

วัชรา เล่าเรียนดี, ปรณัฐ กิจรุ่งเรือง, และ อรพิณ ศิริสัมพันธ์. (2560). กลยุทธ์การจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาการคิดและยกระดับคุณภาพการศึกษาสําหรับศตวรรษที่ 21. นครปฐม: เพชรเกษมพริ้นติ้งกรุ๊ป.

วิชัย ตรีเล็ก, และ ณมน จีรังสุวรรณ. (2557). ต้นแบบการเรียนรู้ร่วมกันโดยใช้โครงงานผ่านเอ็มเลิร์นนิ่งเพื่อเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายในกรุงเทพมหานครและนครเวียงจันทร์. วารสารสารสนเทศ, 13(2), 27-38.

สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน). (2565). รายงานผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ปีการศึกษา 2565. https://www.niets.or.th/th/

สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี. (2546). การจัดสาระการเรียนรู้กลุ่มวิทยาศาสตร์ หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน. กรุงเทพฯ: สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี.

สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม. (2563). ประวัติหน่วยงาน. https://www.ops.go.th/th/aboutus/history.

สุนันทา ยินดีรมย์, บุญเรือง ศรีเหรัญ, และ ชาตรี เกิดธรรม. (2557). การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยสื่อประสม กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สาหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ที่ 3. วารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์, 8(2), 65-78.

Anderson, L. W. and Krathwohl, D. R. (2001). A taxonomy for learning, teaching, and assessing: A revision of Bloom’s taxonomy of educational objectives. Allyn & Bacon. Boston, MA (Pearson Education Group).

Brown, T. H. (2003). The role of m-learning in the future of e-learning in Africa. http://www.tml.tkk.fi/Opinnot/T110.556/2004/Materiaali/brown03.pdf.

Johnston, R. S., & Atson, J. E. (2004). Accelerating the development of reading, spelling, and phonemic awareness skills in initial readers. Reading and Writing: An Interdisciplinary Journal, 17, 327-357.

Lewis, J., Leach, J., & Wood-Robinson, C. (2000). Chromosomes: the missing link – young people’s understanding of mitosis, meiosis, and fertilization. Journal of Biological Education, 34(4), 189-199.

Urey, M. & Calik, M. (2008). Combining different conceptual change methods within 5E model: A sample teaching design of ‘cell’ concept and its organelles. Asia-Pacific Forum on Science Learning and Teaching, 9(2), 1-9.

ดาวน์โหลด

เผยแพร่แล้ว

29-04-2025

รูปแบบการอ้างอิง

บัวพันธ์ ป., & จันทร์สว่าง เ. . (2025). การจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบสืบเสาะหาความรู้โดยใช้ M-Learning เรื่อง การถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และการคิดวิเคราะห์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 . วารสารศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา, 36(1), 76–87. สืบค้น จาก https://so02.tci-thaijo.org/index.php/edubuu/article/view/270897