การยอมรับเทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน

บทคัดย่อ

การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาการยอมรับเทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน และ 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน ประชากรในการศึกษาวิจัยครั้งนี้ คือ ผู้สูงอายุ มีอายุ 60-70 ปี ที่ใช้บริการแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน 7 จังหวัด  โดยใช้จำนวนกลุ่มตัวอย่าง 400 คน และเก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถาม ด้วยวิธีการสุ่มตัวอย่างอย่างง่าย การวิเคราะห์ข้อมูลด้วย สถิติเชิงพรรณนา ประกอบด้วย ความถี่  ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติเชิงอนุมาน ประกอบด้วย การเปรียบเทียบค่าที  การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว และการวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุ

            ผลการศึกษาพบว่ากลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ เป็นเพศหญิง มีอายุระหว่าง 60 - 65 ปี สถานภาพสมรส  ระดับการศึกษาปริญญาตรี บุคคลที่อาศัยอยู่ร่วมกัน คือ ครอบครัวใหญ่  (คู่สมรส ลูก หลาน) เป็นเจ้าของกิจการ รายได้เฉลี่ยต่อเดือน มากกว่า 40,000 บาท  การวิเคราะห์ความแตกต่างของ อายุ สถานภาพ บุคคลที่อาศัยอยู่ร่วมกัน ระดับการศึกษา และรายได้เฉลี่ยต่อเดือนของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบนมีผลต่อการยอมรับเทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งที่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญที่ระดับ 0.05  นอกจากนี้ การวิเคราะห์การถดถอยเชิงพหุของปัจจัย พบว่าการรับรู้ความง่าย การรับรู้ประโยชน์ พฤติกรรมที่แสดงถึงความตั้งใจ มีอิทธิพลเชิงบวกต่อการยอมรับการใช้งานเทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งเทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งอย่างมีนัยสำคัญทที่ระดับ 0.05.

             การศึกษานี้ สามารถนำไปเป็นแนวทางการส่งเสริมและพัฒนานโยบายการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของผู้สูงอายุให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ภาคใต้ตอนบน และนำไปสู่การต้นแบบการใช้เทคโนโลยีแอปพลิเคชันโมบายแบงก์กิ้งของผู้สูงอายุในเขตพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศไทย