การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและการคิดแก้ปัญหา โดยใช้กิจกรรม การเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ
คำสำคัญ:
กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน, ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนเรียน, การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือบทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายดังนี้ (1) เพื่อพัฒนาแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระเศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ สาระเศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD (4) เพื่อเปรียบเทียบการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD (5) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุกูลนารี อำเภอเมือง จังหวัดกาฬสินธุ์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 24 ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 2 ห้องเรียน ได้แก่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/10 จำนวน 50 คน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน นำไปเปรียบเทียบนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/11 จำนวน 50 คน โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานจำนวน 15 แผน และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD จำนวน 15 แผน แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง จำนวน 30 ข้อ เป็นข้อสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก แบบทดสอบมีค่าดัชนีสอดคล้องระหว่าง 0.60 – 1.00 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.23 ถึง 0.63 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับ (r) เท่ากับ .86 แบบวัดการคิดแก้ปัญหา เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2 ข้อ แบบทดสอบมีค่าดัชนีสอดคล้องระหว่าง 0.60 – 1.00 มีค่าอำนาจจำแนก (r) ตั้งแต่ 0.41 ถึง 0.75 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.72 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานใช้ t- test (Independent Sample)
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
- แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ แบบโครงงานและแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD สาระเศรษฐศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง เศรษฐกิจพอเพียง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 85.53/82.87 และ 83.69/81.40 ตามลำดับ
- ดัชนีประสิทธิผลของแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน มีค่าเท่ากับ 0.5214 และแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD มีค่าเท่ากับ 0.5088 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 52.14 และ 50.88
- นักเรียนที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน และการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไม่แตกต่างกัน - การคิดแก้ปัญหาของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานกับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD มีคะแนนการคิดแก้ปัญหาแตกต่างกันที่ระดับนัยสำคัญ .05
- นักเรียนทั้งที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงานและกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ STAD มีความพึงพอใจโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
-
คำสำคัญ: กิจกรรมการเรียนรู้แบบโครงงาน, ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนเรียน, การจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือ
ดาวน์โหลด
เผยแพร่แล้ว
รูปแบบการอ้างอิง
ฉบับ
ประเภทบทความ
สัญญาอนุญาต
บทความทุกบทความที่ตีพิมพ์ในวารสารบัณฑิตศึกษา มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร ถือว่าเป็นลิขสิทธิ์ของบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร
